ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 559.68 จุด ลดลง 6.35 จุด(-1.12%) มูลค่าการซื้อขาย 4,931 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 564.63 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 558.37 จุด
นายทวีรัชต์ มัททวีวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายค้าหลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับลง ราคาน้ำมันเป็นตัวหลักทำให้ต่างประเทศยังกังวลอยู่ว่า เรื่องเศรษฐกิจอเมริกาจะถดถอยเป็นปัจจัยหลักหรือเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีข่าวดีเกี่ยวกับราคาน้ำมัน เพราะหลุด 60 เหรียญฯดูไม่ค่อยดี ช่วงนี้ถ้ากลับไปยืน 61 เหรียญฯไม่ได้ จะถอยลงไปแถวๆ 54-55 เหรียญฯถ้าลงขนาดนั้นจะส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ดังนั้นต้องระวังเรื่องราคาน้ำมันเป็นหลักเพราะของเราเวทน้ำหนักกลุ่มพลังงาน
สำหรับปัจจัยในประเทศ ต้องดูเรื่องของการเมืองไทยซึ่งการเปลี่ยนแปลงคงรอการประชุมเอเชี่ยนซัมมิทว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรและรอพ.ร.บ.งบประมาณว่าผ่านแล้วจะเป็นอย่างไร รวมทั้งเรื่องไข้หวัดสายพันธ์ใหม่
"ช่วงนี้หาปัจจัยบวกไม่ได้ หุ้นจึงซึม และฝรั่งเองก็ขายเป็นส่วนใหญ่ ค่าเงินบาทถ้าดูเหมือนจะขึ้น ก็เหมือนกับว่าอ่อนค่าเงินน่าจะหยุดไหลเข้า ถ้าดูแรงขายของฝรั่งและกองทุนยังขายไม่หยุดและมีการถอนเงินออกไปก็ต้องระวัง" นายทวีรัชต์ กล่าว
แนวโน้มช่วงบ่าย ตอนนี้พอปัจจัยบวกไม่มีคนก็ชะลอการลงทุนหมด ปริมาณการซื้อขายก็เหลือแค่กว่า 4 พันล้านบาท กลยุทธ์โดยส่วนใหญ่แนะนำให้รอดูสถานการณ์ และดัชนีมี new low คนก็ยิ่งกังวล ทางเทคนิคหุ้นจะต้องตีกลับไปยืนเหนือ 580-585 จุดให้ได้ ถ้ายืนเหนือได้ดูเป็น positive ถ้ายังผ่าน 580-585 จุดไม่ได้ให้หาจังหวะขายลดพอร์ต แนวรับหลักใหญ่ 550 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 523.65 ล้านบาท ปิดที่ 120.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 487.32 ล้านบาท ปิดที่ 212.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 305.32 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 263.10 ล้านบาท ปิดที่ 300.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 212.39 ล้านบาท ปิดที่ 8.05 บาท ลดลง 0.35 บาท