SPPT ยังไม่มีแผนเข้าเทคฯ บ.อื่น คาด H2/52 ดีขึ้นแต่ทั้งปีต่ำกว่าปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 3, 2009 11:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท(ประเทศไทย)หรือ SPPT เปิดเผยกับ"อินโฟเควท์"ว่า บริษัทไม่มีแผนที่จะเข้าซื้อกิกจาร(Takeover) บริษัทอื่นในขณะนี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้บริษัทจะมีแผนเจรจาบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อเข้าเป็นพันธมิตรหรือควบรวมกิจการ

เนื่องจากขณะนี้บริษัทต้องการเน้นการบริหารธุรกิจปัจจุบันให้ดีก่อน เพราะมีสัญญานการกลับมาฟื้นตัวของธุรกิจอิเล็คทรอนิคส์ในเดือน ก.ค นี้ ถือว่าเป็นการฟื้นตัวเร็วกว่าที่ประเมินไว้ว่าจะได้เห็นในไตรมาส 4/52 โดยคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เข้ามาพบว่าปริมาณความต้องการสูงขึ้น รวมทั้งมีการเพิ่มชั่วโมงการทำงาน

พร้อมคาดว่า ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะดีขึ้นตามคำสั่งซื้อจากธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์เริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/52 แต่เนื่องจากในไตรมาส 1/52 มีผลขาดทุนถึง 25 ล้านบาท จึงทำให้รายได้และกำไรสุทธิในปี 52 จะลดลงจากปี 51 แต่ในปี 53 จะเป็นปีที่บริษัทสามารถสร้างผลประกอบการที่กลับมาโดดเด่นได้

"การที่ธุรกิจอิเล็คทรอนิคส์ที่กลับมาฟื้นตัวและออเดอร์ที่เข้ามานั้นคาดว่าจะส่งผลดีต่อผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง ตอนนี้สัญญานการฟื้นตัวของธุรกิจอิเล็คทรอนิคส์เริ่มกลับมา ซึ่งเร็วกว่าที่เราประเมินไว้ค่อนข้างมาก การที่เราสามารถรองรับคำสั่งซื้อลูกค้าได้จะทำให้เราได้เปรียบ และก็คาดว่าจะปรับตัวดียิ่งขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 แต่หากนำไตรมาส 1 ที่ขาดทุนเยอะคงไม่สามารถหักล้างได้"นายประพจน์ กล่าว

นายประพจน์ กล่าวว่า ภายในปึนี้บริษัทพยายามเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟมากขึ้นเป็น 50% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 40% เนื่องจากมีมาร์จิ้นที่สูงกว่าธุรกิจฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟที่มาร์จิ้น 14-15%

อย่างไรก็ตาม กำลังผลิตทั้งธุรกิจฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟและธุรกิจที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น โดยจะเห็นได้จากกำลังการผลิตธุรกิจฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟที่ตอนนี้กลับมาเพิ่มเป็น 80% จากก่อนหน้านี้อยู่ที่แค่ 50-60% ขณะที่ธุรกิจที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟปัจจุบันอยู่ที่ 85% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/52 อยู่ที่ 40-45%

นายประพจน์ กล่าวว่า บริษัทได้มีการสั่งเครื่องจักรเข้ามาเพิ่มจำนวน 4 เครื่องประมาณ 10 ล้านบาท ที่โรงงานที่อยุธยาเพื่อรองรับกับความต้องการลูกค้าที่เข้ามาทั้งลูกค้ารายเดิม และลูกค้ารายใหม่ 2- 3 รายแม้ในช่วงแรกจะยังไม่มากแต่ก็เป็นสัญญานที่ดี

และ มีลูกค้าดำเนินธุรกิจธุรกิจที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟจากประเทศญี่ปุ่นต้องการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรมาให้บริษัทผลิตขณะที่บริษัทญี่ปุ่นจะเป็นผู้ประกอบเองที่บริษัทได้มีการเจรจาในช่วงที่ผ่านมาและคาดว่าจะเห็นการเข้ามาใน ไตรมาส 3/52 ซึ่งบริษัทมีที่ดินในการรองรับไว้เรียบร้อย

ทั้งนี้ โรงงานการผลิตในจังหวัดสิงห์บุรีเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสต์ไดร์ฟอย่างสมบูรณ์เพื่อรองรับลูกค้าทั้งหมด ส่วนโรงงานการผลิตในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันมี 3 โรงงานจะเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟโดยโรงงาน 1 และ 2 จะใช้เพื่อการผลิตรองรับลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ ส่วนโรงงาน 3 ใช้ประกอบมอเตอร์กล้องถ่ายรูปสำหรับบริษัท นิคอน ประเทศไทย จำกัด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ