ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังจากมีข่าวว่าธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด วางผนที่จะระดมทุนด้วยการขายหุ้น ซึ่งทำให้เกิดกระแสความวิตกกังวลว่าภาคการธนาคารของอังกฤษอาจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เพราะถูกกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลก อย่างไรก็ตาม ดัชนีปิดลบเพียงปานกลางเพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของอังกฤษและข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ดีเกินคาดของสหรัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 11.09 จุด แตะที่ 4,671.37 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,627.71-4,682.46 จุด
เดวิด บูอิค นักวิเคราะห์จาก BGC Partners ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีข่าวว่า สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ธนาคารรายใหญ่ของอังกฤษ วางแผนระดมทุน 1 พันล้านปอนด์ (1.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านการขายหุ้น โดยปีเตอร์ แซนด์ส ซีอีโอของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดกล่าวว่า แผนการระดมทุนครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะชิงความได้เปรียบด้านโอกาสทางกลยุทธ์ และเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งขององค์กร
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงหนุนหลังจากอังกฤษเปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิตภายในประเทศเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 50.8 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกและเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2551 ขณะที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นเกินคาดและเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5
ทั้งนี้ หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดร่วง 7.5% ขณะที่หุ้นธนาคาร HSBC ปิดลบ 1.1% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดบวก 2.2%