FOCUS เชื่อราคา PP ใหม่จูงใจผู้ร่วมทุนดีขึ้น, อาจสรุปมากกว่า 1 ราย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 2, 2009 15:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนนทวัฒน์ ทองมี กรรมการผู้จัดการ บมจ.โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น(FOCUS)กล่าวว่า การที่บริษัทตัดสินใจปรับลดราคาขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ให้แก่บุคคลในวงจำกัด(Private Placement)เหลือไม่ต่ำกว่า 2 บาท/หุ้น จากเดิม 3 บาท/หุ้น เนื่องจากคณะกรรมการบริษัทได้ปรึกษาและประเมินสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันแล้ว เห็นว่าราคาที่ลดลงมามีความยืดหยุ่น และโน้มน้าวผู้สนใจลงทุนได้

"เป็นการพิจารณากันของคณะกรรมการบริษัท ยังไม่ได้หมายความว่ามีผู้ติดต่อจองซื้อมาที่ราคานี้ ซึ่งราคาไม่ต่ำกว่า 2 บาทนี้เราก็จะพยายามขายให้ได้ราคาที่ดีที่สุด"นายนนทวัฒน์ กล่าว

หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงแผนขายหุ้นเพิ่มทุน บริษัทก็จำเป็นต้องเรียกประชุมวิสามัญอีกรอบในวันที่ 12 ต.ค.นี้ เชื่อว่าผู้ถือหุ้นน่าจะเข้าใจและอนุมัติให้มีการปรับลดราคา แม้ว่าจะทำให้เงินที่บริษัทจะได้รับหายไปจำนวนมากก็ตาม

นายนนทวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อประเมินจากการที่ FOCUS มีแผนเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น ขาย PP หากคิดที่ราคาเดิม 3 บาท/หุ้น จะได้รับเงินเพิ่มทุนประมาณ 600 ล้านบาท แต่เมื่อปรับราคาขายเหลือไม่ต่ำกว่า 2 บาท/หุ้น จะได้รับเงินเพิ่มทุนไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งความแตกต่างตรงนี้อาจจะเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ผู้ถือหุ้นข้องใจ

"ก็ต้องตัดสินใจกันเพราะถ้าขายที่ราคา 3 บาท/หุ้น อาจจะไม่มีคนสนใจเข้ามาเลยก็ได้ แต่ถ้าเหลือไม่ต่ำกว่า 2 บาท/หุ้น น่าจะทำให้โอกาสหาผู้ร่วมทุนง่ายขึ้น"นายนนทวัฒน์ กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

อย่างไรก็ตาม นายนนทวัฒน์ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับนักลงทุนที่สนใจเข้ามาซื้อหุ้น PP เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการทาบทามโดยผู้บริหารของบริษัท จึงไม่ทราบว่าเป็นบุคคลหรือกลุ่มใด แต่ยืนยันว่าพันธมิตรที่เข้ามาจะต้องสามารถช่วยเหลือด้านใดด้านหนึ่งกับบริษัททั้งการขยายธุรกิจ และด้านเสริมสภาพคล่องให้มีความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งอาจมีมากกว่า 1 ราย

"มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะมากกว่า 1 ราย เป็นผมๆ ก็อยากได้หลายๆ ราย จะได้ไม่เป็นการผูกขาด ในแง่บริหารก็จะดีกว่า แต่ผมเชื่อว่าอาจจะยังไม่ได้สรุปขาย PP เร็วๆ นี้ ไม่แน่ใจว่าจะทันปีนี้หรือเปล่า เพราะมันยังไม่มีการ Commitment อะไรเข้ามาตอนนี้ เป็นการขออนุมัติเตรียมงานไว้ไก่อน เพราะบางทีจังหวะจะได้มันก็เร็ว ไปขออนุมัติทีหลังอาจจะไม่ทันการณ์ก็ได้"นายนนทวัฒน์ กล่าว

*ปีนี้ประคองตัวรักษาระดับรายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 715 ลบ.

สำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ นายนนทวัฒน์ กล่าวว่า แน่นอนว่าบริษัทจะยังเน้นทำธุรกิจก่อสร้าง แต่อนาคตถ้ามีจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม บริษัทก็คงไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ธุรกิจการก่อสร้างเพียงอย่างเดียว หรือถ้าการทำธุรกิจใหม่ยังอยู่ในไลน์ธุรกิจเดิมได้ก็ดีจะได้เกื้อหนุนกันได้

แนวโน้มผลประกอบการปี 52 บริษัทจะพยายามรักษาระดับของรายได้ให้ใกล้เคียงกับปี 51 ที่มีรายได้ 715.39 ล้านบาท โดยงวดครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 405.43 ล้านบาท แต่ยังไม่อาจคาดเดาได้ว่าปีนี้จะพลิกมาเป็นบวกหรือไม่ จากปี 51 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 6.40 ล้านบาท แม้ผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 1.57 ล้านบาท เทียบกับครึ่งปีแรกของปี 51 ที่ขาดทุน 6.69 ล้านบาท แต่สถานการณ์ครึ่งปีหลังยังไม่แน่นอน

"ปีนี้จะกำไรหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คือ ทุกแห่งต้องมีงานเข้ามา รักษาต้นทุนให้ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนงาน และก็ต้องดูอุตสาหกรรมโดยรวมซึ่งก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ในอุตสาหกรรมก่อสร้างภาพรวมบริษัทจดทะเบียนทั้ง 14 แห่ง ผลประกอบการยังไม่โดดเด่น ครึ่งปีแรกงานใตลาดหายไปเยอะมากผงจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง เราเองก็เผชิญภาวะนี้เช่นกัน ทำให้เราจึงยังฟันธงไม่ได้ว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกหรือไม่ แต่เชื่อว่าปี 53 สถานการณ์น่าจะดีขึ้น ชัดเจนขึ้น ฝ่ายบริหารก็พยายามทำงานอยู่"นายนนทวัฒน์ กล่าว

นายนนทวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบัน FOCUS มีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 600 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานใหม่ทุกเดือนๆ ละ 2-3 งาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ