สตาร์ไมโครฯคาดปี 53 กำไรโต 10%จากปีนี้โต 6-7%,จ่ายปันผล 14 สต.ใน Q4/52

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 14, 2009 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมนึก ไชยกุล ประธานกรรมการ บมจ.สตาร์ ไมโครอิเล็กทรอนิกส์(ประเทศไทย)คาดว่า กำไรสุทธิในปี 53 จะเติบโต 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 6-7% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 201 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์)ทยอยเข้ามามากขึ้นในเดือน ส.ค. โดยเฉพาะสินค้า IC ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิม ซึ่งสินค้า IC จะมีอัตรากำไรขั้นต้น(มาร์จิ้น)สูงเฉลี่ย 40%

ทั้งนี้ ในปีหน้าบริษัทจะรับรู้รายได้จากออร์เดอร์ของลูกค้าที่ทยอยเข้ามาในช่วงนี้ได้เต็มปี รวมทั้งคาดว่าจะมีออร์เดอร์จากสินค้าใหม่เข้ามาด้วย ส่วนรายได้ในปีนี้ยังคงเป้าเดิม 1.21 หมื่นล้านบาทใกล้เคียงกับปีก่อน เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลกหดตัว

นายสมนึก กล่าวว่า จากออร์เดอร์สินค้า IC ที่เข้ามามาก ส่งผลให้บริษัทต้องเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 1.2 พันล้านชิ้นต่อปี จาก 700 ล้านชิ้นต่อปี โดยคาดว่าจะใช้เม็ดเงินลงทุน 150 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการทยอยลงทุนปีนี้และปีหน้า โดยแหล่งเงินมาจากกระแสเงินสดของบริษัท

สำหรับการนำหุ้นสตาร์ ไมโครฯ เข้าเทรดวันที่ 24 ก.ย.นี้ มั่นใจว่าราคาหุ้นจะยืนเหนือราคาจองที่ 4.95 บาท เพราะเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน อีกทั้งความเสี่ยงของการลงทุนในหุ้นสตาร์ ไมโครฯ มีน้อย เพราะเม็ดเงินที่ระดมทุนจะนำไปคืนหนี้ ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือ 0.5 เท่าจากปัจจุบันอยู่ที่ 1 เท่า

ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมจะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.14 บาท/หุ้นในช่วงไตรมาส 4/52 ซึ่งมองว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยจูงใจให้หุ้นสตาร์ ไมโครฯ น่าสนใจมากขึ้น

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริษัท บล.ทิสโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หุ้นสตาร์ส ไมโครฯ ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสถาบัน โดยมียอดจองเกิน 3 เท่าของหุ้นที่เสนอขายจำนวน 31.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34% ของจำนวน IPO ทั้งหมด 92 ล้านหุ้น นอกจากนี้ หุ้นสตาร์ ไมโครฯ มีพี/อี ต่ำกว่า 7 เท่าเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่มีพี/อี อยู่ที่ 8-12 เท่า

ในส่วนทิสโก้ มีแผนจะนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกเดินทางไปโรดโชว์ชี้แจงข้อมูลให้กับนักลงทุนที่สิงคโปร์และฮ่องกงในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาได้นำบริษัทจดทะเบียน 5 แห่งไปโรดโชว์ในสหรัฐ ได้แก่ บมจ.ปตท.(PTT), บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP), บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น(PTTAR), บมจ.ปูนซิมเนต์ไทย (SCC), บมจ.เจริญโภคภัณฑ์ (CPF) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี

และเชื่อว่าจะห็นนักลงทุนระยะยาวและเฮดจ์ฟันด์เข้ามาในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพราะจากการพูดคุย พบว่าว่านักลงทุนต่างชาติมองว่าตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตที่ดี และยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าประเทศอื่นในแถบอื่น เพราะราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทยยังถูก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องการเมืองบ้าง แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ และเป็นเรื่องภายในประเทศที่สามารถจัดการได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ