ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแววพุ่งสูงขึ้นอีกในปีหน้า เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ยที่เคลื่อนไหวในระดับต่ำ โดยนักวิเคราะห์แนะให้นักลงทุนซื้อหุ้นการเงิน เทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องจักร และอุตสาหกรรม
จอห์น ปราวีณ นักวิเคราะห์จากบริษัทพรูเดนเชียล อินเตอร์เนชั่นแนล อินเวสเมนท์กล่าวว่า นักลงทุนจะซื้อหุ้นในช่วงครึ่งปีแรก โดยเฉพาะตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่
"ตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวได้ต่อเนื่องในปีหน้า หลังจากที่เติบโตแข็งแกร่งในปีนี้ จากควันหลงของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังหลงเหลือไปจนถึงปี 2553 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยังอยู่ในระดับต่ำ" ปราวีณกล่าวเสริม
บลูมเบิร์กรายงานว่าดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก MSCI World Index ปรับตัวสูงขึ้น 61% นับตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในปีนี้ เพราะได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลกที่มีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการปรับลดดอกเบี้ยลงใกล้ระดับ 0% ของธนาคารกลางหลายแห่งเพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่เมื่อปีก่อนดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลง 42%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังมีมุมมองในแง่บวกลดน้อยลง โดยผู้จัดการกองทุนรายใหญ่ 2 แห่งในสกอตแลนด์กล่าวว่า การเก็บเกี่ยวเม็ดเงินจากการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียจะทำได้ยากมากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดทั่วจะเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวนในปีหน้า เพราะมูลค่าสินทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น และนักลงทุนเริ่มกังวลว่าธนาคารกลางอาจยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเกาหลีใต้ อินเดีย และจีน อาจเริ่มปรับใช้นโยบายดอกเบี้ยตามปกติในช่วงครึ่งแรกหลังจากที่ปรับลดดอกเบี้ยเมื่อปีที่ผ่านมา ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ และสหรัฐจะเริ่มเจริญรอยตามประเทศต่างๆในเอเชีย
นอกจากนี้ ปราวีณได้ให้น้ำหนักความน่าลงทุนของตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่ที่ “overweight" และให้น้ำหนักความน่าลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐเป็น "underweight" ในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า พร้อมทั้งกล่าวว่านักลงทุนจะเริ่มเบนเข็มออกจากตลาดหุ้นในตลาดเกิดใหม่ไปลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐช่วงครึ่งปีหลัง