A เผยปี 52 รายได้-กำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์, คาดปี 53 โตต่อเนื่อง 15%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 13, 2009 10:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังษี กรรมการผู้จัดการ บมจ. อารียา พรอพเพอร์ตี้(A)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทประมาณการรายได้ในปี 53 อีกประมาณ 15% จากปีนี้ถือเป็นปีที่บริษัทประสบความสำเร็จอย่างมาก คาดว่ารายได้และกำไรจะดีที่สุดนับตั้งแต่ตั้งบริษัทและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ด้านรายได้ปี 52 คาดว่าจะทำได้ราว 3 พันล้านบาท เนื่องจากงวด 6 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 1,361.84 ล้านบาท และไตรมาส 3 รับรู้เข้ามาอีกประมาณ 1,146 ล้านบาท รวม 3 ไตรมาส รายได้รวมประมาณ 2.5 พันล้านบาทแล้ว เพราะฉะนั้นกว่าจะจบปีนี้คาดว่ารายได้น่าจะเกิน 3 พันล้านบาท

"ถือว่าปีนี้ peak สุดตั้งแต่ตั้งบริษัทและเข้าตลาดหลักทรัพย์มาเมื่อปี 47"นายวิศิษฏ์ กล่าว

จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ ปี 48 จนถึงปัจจุบัน A มีผลประกอบการ ดังนี้

ปี 48 รายได้รวม 976.91 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8.72 ล้านบาท

ปี 49 รายได้รวม 885.77 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8.19 ล้านบาท

ปี 50 รายได้รวม 839.22 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 78.64 ล้านบาท

ปี 51 รายได้รวม 851.58 ล้านบาท กำไรสุทธิ 32.58 ล้านบาท

งวด 6 เดือนแรก รายได้รวม 1,361.84 ล้านบาท กำไรสุทธิ 146.75 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3/52 มีรายได้รวม 1,146.97 ล้านบาท กำไรสุทธิ 187.07 ล้านบาท

นายวิศิษฎ์ กล่าวถึงสาเหตุที่ปีนี้ผลประกอบการออกมาดีมาก มาจากการรับรู้รายได้โครงการที่ทยอยเปิดขายและทยอยโอน โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/52 บริษัทยังมี Backlog อีกประมาณ 3.1 พันล้านบาท คาดว่าจะทยอยรับรู้ฯ ในไตรมาส 4/52ประมาณ 1 พันล้านบาท และที่เหลือจะรับรู้ฯ ในไตรมาส 1/52 และไตรมาส 2/53

นอกจากนี้ ในปี 53 ก็จะมียอดขายใหม่จากโครงการที่เปิดเฟสใหม่รอขายอยู่ หรือบางโครงการขายไปครึ่งนึงแล้วก็จะเปิดการขายต่อเนื่อง

*ปี 53 เปิดอย่างน้อย 6-7 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 5 พันลบ.

นายวิศิษฎ์ กล่าวว่า ปี 53 เบื้องต้นบริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ประมาณ 6-7 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 5 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 2-3 โครงการ และทาวเฮ้าส์ 4 โครงการ เมื่อรวมกับ Backlog ที่มีอยู่ประมาณ 3 พันล้านบาท

"ทำให้มั่นใจว่าปีหน้าเราน่าจะโต 15% ส่วนกำไรก็น่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปี 53 คาดว่าจะดีกว่าปี 52 ที่อัตราขั้นต้นเฉลี่ย 30-35%"นายวิศิษฎ์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน 2-3 แปลง โดย 1 ในนั้นถือเป็นที่ดินผืนใหญ่ย่านใจกลางกรุงเทพฯ มูลค่าการซื้อที่ดินประมาณ 1 พันล้านบาท โดยมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดฯ มีแหล่งอำนวยความสะดวกครบครัน คาดว่าเมื่อถึงเวลาเปิดตัวน่าจะสร้างความฮือฮาให้กับตลาดพอสมควร เพราะคาดว่าเมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์ มูลค่าทรัพย์สินน่าจะอยู่ราวๆ 8-9 พันล้านบาท คาดว่าการเจรจาจะสรุปภายในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ