ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) โดยดัชนีปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากราคาโลหะที่พุ่งขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ยูบีเอส เอจี คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นลอนดอนจะทะยานขึ้น 18% ภายในปลายปีหน้า
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 15.22 จุด แตะที่ 5,327.39 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,283.04-5,348.45 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากนิค เนลสัน หัวหน้านักวิเคราะห์จากยูบีเอส เอจี ออกรายงานคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นลอนดอนจะพุ่งขึ้น 18% แตะระดับ 6,250 จุดภายในปลายปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกเข้าสู่วงจรของการฟื้นตัว และกำไรภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำจะยิ่งดึงดูดนักลงทุนให้เข้าเทรดในตลาดหุ้นมากขึ้นด้วย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นหลังจากราคาทองแดงและนิกเกิ้ลในตลาดลอนดอนพุ่งขึ้น โดยหุ้นคาซัคมิส ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่สุดของคาซัคสถาน ปิดบวก 2.3% หุ้นยูเรเซียน เนเชอรัล รีซอสเซส ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองรายใหญ่ของคาซัคสถาน ปิดพุ่ง 1.8% ส่วนหุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส ปิดบวก 2.5%
หุ้นโวดาโฟนปิดบวก 2.18% หลังจากนักวิเคราะห์ของเครดิตสวิสปรับขึ้นราคาเป้าหมายราคาหุ้นโวดาโฟนขึ้นสู่ระดับ 160 เพนซ์ จากเดิมที่ 150 เพนซ์ เพราะเชื่อว่าโวดาโฟนจะได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารในอังกฤษที่เข้าไปลงทุนในดูไบจะได้รับผลกระทบจากการเลื่อนชำระหนี้ของบริษัท ดูไบ เวิล์ด โดยหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดลบ 0.5% หุ้นธนาคาร HSBC ปิดร่วง 1.6% หุ้นลอยด์ส แบงกิ้ง กรุ๊ป ปิดลบ 1.9% และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดร่วง 2.1%