นักวิเคราะห์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานต่อสัปดาห์นี้ ขณะตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 21, 2009 06:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะดีดตัวขึ้นต่อเนื่องถึงสัปดาห์แม้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นก็ตาม เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าบริษัทเอกชนจะรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ คาดว่านักลงทุนจะจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้าน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

นักวิเคราะห์จากบริษัท เบย์ เครสท์ พาร์ทเนอร์ ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กมีแนวโน้มทะยานขึ้นในสัปดาห์นี้แม้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นก็ตาม ซึ่งโดยปกติแล้วเมื่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจะทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกำไรในตลาดต่างประเทศของบริษัทสหรัฐ แต่ในอีกด้านหนึ่งนั้น การแข็งค่าของดอลลาร์ก็บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มแข็งแรงขึ้น

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ธ.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 20.63 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 10,328.89 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยายตัว 6.39 จุด หรือ 0.58% แตะที่ 1,102.47 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดเดินหน้าขึ้น 31.64 จุด หรือ 1.45% แตะที่ 2,211.69 จุด

โดยบรรยากาศการซื้อขายในตลาดเมื่อวันศุกร์ได้รับปัจจัยหนุนจากการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งของบริษัทรีเสิร์ช อิน โมชั่น ผู้ผลิตแบล็กเบอร์รี่ ขณะที่ผลกำไรของออราเคิล ยักษ์ใหญ่ด้านซอฟท์แวร์ก็พุ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เช่นกัน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้หนุนให้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อภาคธุรกิจในสหรัฐมากขึ้น

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะทะยานขึ้นแข็งแกร่งในปี 2553 โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 ที่มีแนวโน้มพุ่งขึ้น 9.8% เพราะได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0 - 0.25% และกระแสคาดที่ว่าผลประกอบการภาคเอกชนจะขยายตัวขึ้น รวมทั้งกระแสควบรวมกิจการและเข้าซื้อหุ้นในภาคเอกชน

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันจันทร์ เฟดสาขาชิคาโกเตรียมเปิดเผยดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนพ.ย. วันอังคาร กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของจีดีพี Q3/2009 และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยรายได้และการบริโภคส่วนบุคคลเดือนพ.ย., มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายเดือนธ.ค.และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และกระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.

ส่วนวันศุกร์ ไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากตลาดหุ้น ตลาดปริวรรตเงินตรา และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ ปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาส


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ