ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช้านี้ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะยอดขายบ้านในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร และราคาน้ำมันดิบ NYMEX ยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 74 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,115.88 จุด บวก 23.84 จุด ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนอ่อนตัว 0.08% แตะ 3,048.20 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,892.75 บวก 36.75 จุด ส่วนดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 1,661.44 จุด เพิ่มขึ้น 5.90 จุด
ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,704.50 จุด เพิ่มขึ้น 0.30 จุด และดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,834.95 บวก 11.13 จุด ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ (23 ธ.ค.) เนื่องในวันหยุดประจำชาติ
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI Asia Pacific ดีดตัวขึ้น 0.3% ในช่วงเช้านี้
ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 7.4% มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5% เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้มาตรการลดหย่อนภาษี ซึ่งช่วยกระตุ้นยอดขายบ้านทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
ยอดขายบ้านมือสองที่เพิ่มขึ้นเกินคาดเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล และถือเป็นปัจจัยบวกที่ตลาดได้รับสืบเนื่องจากวันจันทร์ เมื่อบริษัท ซาโนฟี-เอเวนติส ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาของฝรั่งเศสประกาศแผนเข้าซื้อกิจการบริษัท แชทเทม อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพของสหรัฐ มูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 68 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 74.40 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) มีมติคงเพดานการผลิต ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาน้ำมันยังคงมีเสถียรภาพในระยะนี้