ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) จากแรงขายที่ส่งเข้ากระหน่ำหุ้นโวดาโฟน กรุ๊ป อย่างไรก็ตาม ดัชนีปิดลบไม่มากนักเนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัท เจ เซนส์บิวรี และจากการที่นักวิเคราะห์ของยูบีเอส เอจี แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นโวลเซลีย์
ดัชนี FTSE 100 ขยับลง 3.32 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 5,526.72 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,499.80 - 5,551.66 จุด
หุ้นโวดาโฟนซึ่งเป็นบริษัทโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 2.2% หลังจากนายอิวาน เซเดนเบิร์ก ซีอีโอของบริษัท เวริซอน คอมมูนิเคชันส์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนของโวดาโฟนที่ร่วมทำธุรกิจโทรศัพท์มือถือในสหรัฐ กล่าวว่า ผลกำไรของเวริซอนร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ในปี 2552
อย่างไรก็ตลาด ตลาดหุ้นลอนดอนได้ปัจจัยบวกจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งของบริษัทเจ เซนส์บิวรีซึ่งทำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต โดยหุ้นเจ เซนส์บิวรีปิดบวก 3.2%
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีจี กรุ๊ป ปิดบวก 0.5% หุ้นบีพีปิดบวก 1.2% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดพุ่ง 2% และหุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 2.5% แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่อ่อนตัวลงหลังจากราคาทองแดงในตลาดโลกร่วงลง โดยหุ้นเอ็กซ์สตราต้าปิดลบ 0.4% หุ้นอันโตฟากัสต้าปิดลบ 0.9% หุ้นแองโกล อเมริกัน ปิดร่วง 1.2% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปิดลบ 1.5%
นักลงทุนรอดูตัวเลขจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าอัตราว่างงานเดือนธ.ค.ปี 2552 ของสหรัฐจะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 10.1% จากเดือนพ.ย.ที่ 10% แต่คาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.อาจลดลงเพียง 1,000 ราย