ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานกรรมการ บมจ. เอพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เปิดเผยว่าบริษัมมีแผนยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป(IPO )เข้าจดทะเบียนตลาด mai ช่วงต้นปี 53 และ คาดว่าจะเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงไตรมาส 1/53 จำนวน 60 ล้านหุ้น หลังขายหุ้นเพิ่มทุน บริษัทจะมีทุนจดทเบียนเพิ่มเป็น 145 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นะล 0.50 บาท
ทั้งนี้ บริษัทได้แต่งตั้ง บล.โกลเบล็ก เป็นที่ปรีกษาการเงิน และบล.คันทรีกรุ๊ปเป็นผู้จัดจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO
ด้านนายภาณุ คงแท่น ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า บมจ. เอพลัสฯ มีศักยภาพขยายตังต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำงบการเงินปี 52 คาดว่าน่าจะยื่นขออนุญาตขายหุ้น IPO ได้ตามแผนที่วางไว้
ส่วนนายวงศ์วิทย์ วิจารณรงค์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอพลัสฯ กล่าวว่า บริษัท ดำเนินธุรกิจด้านสื่อสารครบวงจร ได้แก่ ทีวีผ่านด่าวเทียม ธุรุกิจสื่อวิทยุ ธุรกิจประชาสัมพันธ์ และธุรกิจอีเว้นท์รวมออแกไนเซอร์ โดยธุรกิจวิทยุบริษัทมีนโยบายซื้อเวลาโฆษณาจากเจ้าของสถานี และดำเนินการตลาด หาลูกค้าใช้เวลาโฆษณาดังกล่าว ขณะที่ธุรกิจทีวีผ่านดาวเทียมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันดำเนินการทีวีดาวเทียม 3 ช่อง ได้แก่ ช่อง ฮิตสเตชั่น เป็นช่องเพลงลูกทุ่ง , ช่องโอเคทีวี และ ช่อง CSR TV เน้นรูปแบบรายการเพื่อสังคม
ในปี 53 เอพลัสฯตั้งเป้ารายได้ 150 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 52 โดย 9 เดือนแรกของปี 52 มีรายได้แล้ว 130 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่ปีนี้รายได้ไม่เติบโต เพราะมีการลดขนาดธุรกิจวิทยุลงมา แต่จะไปเพิ่มทีวีดาวเทียมแทน ส่วนในแง่ของกำไรปี 53 น่าจะออกมาดีกว่าปี 52 ที่คาดว่าจะมีกำไรราว 10 ล้านบาท เพราะมาร์จิ้นจากธุรกิจทีวีดาวเทียม
นายวงศ์วิทย์ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุน 10 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและคอนเทนท์ เครื่องมือต่างๆ รองรับการเติบโตของทีวีดาวเทียม ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ชมรวมทั้งหมดประมาณ 10 ล้านครัวเรือน
น.ส.ช่อผกา วิริยานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอเพลัสฯ กล่าวว่าในปี 53 โครงสร้างรายได้จากทีวีผ่านดาวเทียมจะเพิ่มขึ้นเป็น 53% จากปัจจุบัน 30% ส่วนรายได้จากวิทยุ 40% ธุรกิจประชาสัมพันธ์ 15% และธุรกิจอีเว้นท์ 15%
ขณะที่นายชูพงศ์ ธนเศรษฐการ กรรมการผู้จัดการ บล.คันทรี่ กรุ๊ป(CGS) คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้น IPO หุ้นเอพลัสฯ ได้ในไตรมาส 2/53 มั่นใจขายได้หมด เพราะจำนวน 60 ล้านหุ้นถือว่าไม่มากนัก และฐานลูกค้าของทั้ง CGS และ บล.โกลเบล็กก็มีจำนวนมาก