นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้จะติดลบ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก เนื่องจากมีปัจจัยลบจากต่างประเทศรวมทั้งในประเทศ โดยปัจจัยต่างประเทศทั้งจีนตั้งเพดานกัน สำรองของธนาคารพาณิชย์ และชะลอการกระตุ้นเศรษฐกิจลดการช่วยเหลือและอุดหนุน ทำให้ช็อคตลาด รวมทั้งประธานาธิบดีโอบามาประกาศลดความช่วยเหลือสถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกาโดยรัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมจากสถาบันการเงิน เพื่อชดเชยยอดสูญเสียจากโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) ทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีททำปรับลดลง รวมทั้งราคาน้ำมันในตลาดโลก และผลกระทบจากสถานการณ์ในเวเนซูเอล่า และแอฟริกาใต้ซึ่งถือว่ามีปัจจัยลบจำนวนมากจากต่างประเทศ รวมทั้งปัจจัยในประเทศจากการที่ศาลฎีกาจะพิพากษาคดียึดทรัพย์อตีตนายกทักษิณ จะส่งผลให้มีปัญหาการเมืองตามมาได้ ทำให้วันนี้คาดว่าตลาดหุ้นจะหลุด 740 จุด
"ตลาดหุ้นทั่วโลกวันนี้คงแดงเถือก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยเพราะข่าวร้ายจำนวนมาก เชื่อว่าหุ้นไทยก็ปรับลดเช่นเดียวกันและอาจจะหลุดที่ 740 จุด ได้"นายวรุตม์ กล่าว
ประเด็นพิจารณาการลงทุน:
-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค(13 ม.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 10,627.26 จุด ลดลง 36.73 จุด(-0.34%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,136.22 จุด ลดลง 10.76 จุด(-0.94%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,282.31 จุด ลดลง 30.10 จุด (-1.30%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 308.80 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 80.79 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.73 ดอลลาร์
- ศาลฎีกาปิดคดี 'ยึดทรัพย์'7.6 หมื่นล้านบาท ตัดสิน 26 ก.พ. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดหลังสืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว พร้อมเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายส่งคำแถลงปิดคดีภายใน 30 วัน หากไม่ยื่นภายในกำหนดถือว่าไม่ติดใจ
- ครม. เห็นชอบกับระเบียบของสำนักนายกฯ ว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรอิสระ และจะใช้ระยะเวลา 60 วันแต่งตั้งคณะกรรมการ
- แบงก์ชาติจีนประกาศเพิ่มสัดส่วนสำรองเงินฝากธนาคารพาณิชย์ 0.5% มีผล 18 ม.ค.เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อสูงเกินไปทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและภาวะฟองสบู่ในสินทรัพย์
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,129.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 22.00 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,124.30 -1,158.30 ดอลลาร์
- บีโอไอได้สรุปภาวะการลงทุนในปี 2552 พบว่ามีนักลงทุนเข้ามายื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอทั้งสิ้น 1,573 โครงการรวมมูลค่า 723,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการลงทุน เพราะถือว่ามูลค่าการลงทุนสูงสุดในรอบกว่า 40 ปีชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีปัจจัยที่สามารถดึงดูดการลงทุนได้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในช่วงชะลอตัว และไทยอยู่ในช่วงการแก้ไขปัญหามาบตาพุดก็ตาม
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประชุมนัดแรกของปี 53 วันนี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25% ตามเดิม เศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงการฟื้นตัว ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อยังไม่รุนแรง
- กระทรวงการคลังจะเสนอกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 พร้อมทั้งประมาณการรายได้ ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติในวันที่ 26 ม.ค.นี้ โดยสมมติฐานการจัดทำงบประมาณ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 6.5% ต่อปี (รวมเงินเฟ้อ)
- ธปท.ไม่กังวลเรื่องสภาพคล่องในระบบการเงิน แม้กระทรวงการคลังจะออกพันธบัตรออมทรัพย์วงเงิน 5-8 หมื่นล้านบาท ในช่วงปลายไตรมาสแรกของปีนี้ ก็เชื่อว่า จะไม่กระทบกับสภาพคล่องในระบบ เนื่องจากเงินที่รัฐออกพันธบัตรไปไม่ได้หายไปไหน แต่ยังคงนำมาหมุนเวียนใช้อยู่ในระบบ