หุ้น DCON ราคาพุ่งพรวดขึ้น 9.48% มาอยู่ที่ 2.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท มูลค่าซื้อขาย 32.46 ล้านบาท เมื่อเวลา 14.30 น. โดยเปิดตลาดที่ 2.34 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.86 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.32 บาท
ล่าสุดเมื่อ 15.23 น.หุ้น DCON อยู่ที่ 2.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท(+7.76%)มูลค่าซื้อขาย 33.59 ล้านบาท
นายวิทวัส พรกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ดีคอนโปรดักส์ (DCON)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า นักลงทุนให้ความสนใจเข้าเทรดหุ้น DCON กันมาก น่าจะเป็นเพราะเห็นว่าเจ้าของไม่ทิ้งหุ้น และผลประกอบการน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น รวมถึงบริษัทฯมีจุดเด่นเรื่องการจ่ายเงินปันผลทุกปี พร้อมระบุราคาปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี(Book value)ที่มีอยู่กว่า 3 บาท/หุ้น ดังนั้น หากใครซื้อก็น่าจะเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย
"ก็คงจะเห็นว่าเจ้าของหุ้นยังรักหุ้นดี ไม่มีทิ้งหุ้นเลย เขาก็เลยไม่กลัวว่าจะทิ้งหุ้น และผลประกอบการน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น และอดีตที่ผ่านมาบริษัทฯก็ยังมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ผมเชื่อว่าอันนี้ก็เป็นจุดเด่นของบริษัทฯเราที่มีปันผลทุกปี ก็ไม่มีปีไหนไม่ปัน และราคาหุ้นก็ลงมาเยอะมาก จากเดิมอยู่ 9.25 บาท และบุ๊คก็ 3 บาทกว่า และใครที่ซื้อราคาบุ๊คก็ถือว่าปลอดภัย"นายวิทวัส กล่าวประธานกรรมการบริหาร DCON กล่าวว่า ในปี 53 บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ 600 ล้านบาท หลังจากปี 52 รายได้หล่นไปเหลือกว่า 500 ล้านบาทจากผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจ แต่มาในปีนี้ธุรกิจฟื้นตัวขึ้นแล้ว และบริษัทฯก็พยายามที่จะทำ product ใหม่ออกมาสู่ตลาดเพิ่มขึ้น
"หากพูดถึงอัตราการเติบโตของเราในปีนี้ก็น่าจะดีขึ้นจากปีที่แล้วธุรกิจมีการฟื้นตัวขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจ และบริษัทฯก็พยายามที่ทำ product ออกมาใหม่ ๆ แต่เดิมเรามียอดขายอยู่ประมาณ 600-700 ล้านบาท แต่ปีที่แล้วคาดว่ายอดขายได้หล่นลงไปเหลือเพียง 460 กว่าล้านบาทเท่านั้น แต่ตัวที่เป็นอสังหาฯก็มีอยู่ประมาณ 51 ล้านบาท รวมเบ็ดเสร็จคาดว่ารายได้ปี 52 จะมีประมาณกว่า 500 ล้านบาท ดังนั้นในปีนี้เศรษฐกิจฟื้น เราก็ตั้งเป้ารายได้ให้กลับไปที่เดิมประมาณ 600 ล้านบาท"นายวิทวัส กล่าว*ปฏิเสธข่าวลือกลุ่มพันธมิตรใหม่เข้าถือหุ้นใหญ่
นายวิทวัส ในฐาะนผู้ถือหุ้นใหญ่ ยังปฏิเสธกระแสข่าวลือที่ว่า DCON จะมีกลุ่มพันธมิตรรายใหม่เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยกล่าวว่ายังไม่เคยมีการเจรจากับรายใด และยืนยันว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมยังไม่มีแนวคิดที่จะขายหุ้นออกไป
"ข่าวลือนี้ไม่เห็นจะเคยได้ยินมาก่อนเลย จริง ๆ แล้วพันธมิตรมันมีอยู่แล้วเพราะเราอยู่ในวงการของธุรกิจก่อสร้างและจัดสรร ก็มีทุกราย ทั้งศุภลัย, เสนาวิลล่า มันสนิทกันแน่นเฟ้น พันธมิตรธุรกิจเราก็พร้อมนะ สำหรับพรรคพวกที่สนิท ๆ กัน ก็พร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าคงจะไม่มีอะไรลงตัวทีเดียว และยังไม่ได้มีการเจรจากันเลย ยังไม่มีอะไรเคลื่อนไหว"นายวิทวัส กล่าวนายวิทวัส กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ กลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของตนเองก็ได้เก็บหุ้นเพิ่ม และไม่คิดที่จะขายหุ้นออกมาด้วย จนตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยมาขอร้องให้เพิ่มฟรีโฟลตให้เป็น 40-45% ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่บริษัทพิจารณาอยู่ เพราะจำนวนหุ้นในตลาดน้อยก็อาจทำให้ถูก control หุ้นที่เทรดอยู่ในตลาดฯ ได้ง่าย
"ตั้งแต่เข้าตลาดฯมา ก็มีแต่ซื้อเขา กลุ่มของผมก็มีแต่เพิ่มมากขึ้นไม่เคยถอยลง ผมก็ไม่คิดจะขาย นอกจากว่าถ้าวันหนึ่งวันใด ที่ตลาดฯเคยขอร้องผมตั้งแต่วันเข้าตลาดฯแล้วว่าอยากจะให้มีฟรีโฟลตสัก 40-45% ในช่วงนั้นผมเองก็หวงหุ้นเหลือเกิน ก็ให้ไปแค่ 20% เพราะถ้าผมให้ไป 40% ราคาหุ้นลงมาเหลือแค่นี้ ผมคงจะเข้าไปซื้อคืนให้หมดเลย ผมซื้อส่วนหนึ่งก็แจ้งตลาดฯไป ญาติซื้อก็มี เขาเห็นนามสกุลเดียวกันก็คิดรวมการถือหุ้นกัน
ตอนนี้หุ้นมันดี หากเราได้ตามความปรารถนาของเราแล้ว เราก็คงจะต้องพยายามเพิ่มฟรีโฟลตเข้าไป ไม่อย่างนั้นแล้ว หุ้นมันน้อย หุ้นก็จะถูก control ได้ง่าย ผมก็อยากจะเพิ่มฟรีโฟลตเข้าไป เพราะปัจจุบันหุ้นมันมีอยู่น้อยในตลาดฯ"นายวิทวัส กล่าว
นายวิทวัส กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มของตนเองเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ DCON ถือหุ้นรวมกันประมาณ 85% ซึ่งนอกเหนือจากนายวิทวัสแล้ว ก็มีนายชนะ โตวัน และกลุ่มสารสิน ซึ่งก็ยังไม่คิดที่จะขายหุ้นออกไปเช่นกัน