ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร แต่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐ หลังจาก ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลงในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับเครดิตธนาคารพาณิชย์ 5 แห่งของกรีซ
ดัชนี FTSE ปิดตลาดบวก 7.32 จุด แตะที่ระดับ 5,679.64 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลงหลังจาก ADP Employer Services รายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐลดการจ้างงานลง 23,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าภาคเอกชนจะเพิ่มการจ้างงาน 40,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนมี.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 190,000- 200,000 คน และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมี.ค.จะทรงตัวที่ระดับ 9.7%
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากข่าวที่ว่ามูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับลดอันดับเครดิตธนาคารพาณิชย์ 5 แห่งของกรีซ รวมถึงธนาคารเนชันแนล แบงค์ ออฟ กรีซ เอสเอ และธนาคารอีเอฟจี ยูโรแบงค์ เออร์กาเซียส เอสเอ
อย่างไรก็ตาม การดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นปัจจัยสำคัญที่พยุงดัชนี FTSE 100 ให้สามารถปิดในแดนบวกได้ โดยหุ้นธนาคารลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดบวก 0.3% หุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดปิดบวก 1% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดพุ่ง 1.6% และหุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดพุ่ง 2.3%