PDI คาดรายได้ Q2/53 ดีต่อเนื่องตามราคาสังกะสี, แย้มเปิดแผนหาเหมืองใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 19, 2010 14:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชิดชัย ทวีพานิช ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบริหารงานกลาง บมจ.ผาแดงอินดัสทรี(PDI)คาดว่า แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาส 1/53 น่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 4/52 ตามภาพรวมราคาสังกะสีในตลาด LME ที่ปรับตัวดีขึ้น และยังดีต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2/53 โดยต้นเดือน เม.ย.53 ราคาโลหะสังกะสีตลาดโลกปรับขึ้นมาอยู่แถว 2,400 เหรียญสหรัฐ/ตัน

"เราก็น่าจะได้รับผลดีด้วย ซึ่งการขาย เราไม่มีขายล่วงหน้าแล้ว แต่จะเป็นการขายที่ราคาเฉลี่ย 1 เดือน ถ้าราคาเฉลี่ยของ 1 เดือนประกาศก็เทียบอัตราแลกเปลี่ยน ณ ตอนนั้น" นายชิดชัย กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยค่าเงินบาทเป็นเรื่องที่บริษัทมีความกังวลอยู่บ้าง กรณีที่เงินบาทแข็งค่าบริษัทจะได้รับเม็ดเงินน้อยลง ซึ่งอาจจะมีผลต่อกำไร แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบมากนัก โดยเป็นภาวะเดียวกับภาคอุตสาหกรรมทั่ว ๆ ไปที่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนบ้าง

นายชิดชัย กล่าวว่า แนวโน้มราคาสังกะสีจากการศึกษาของแวดวงอุตสาหกรรมก็เชื่อว่ายังจะปรับตัวดีขึ้นต่อไป ตามภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้สังกะสีสูงขึ้นด้วย เพราะเท่าที่เห็นไตรมาส 1/53 ที่ผ่านมา ความต้องการใช้สังกะสีดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 4/52

"จากการศึกษาของพวกผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ หรือพวกเทรดเดอร์ราคามีแนวโน้มอยู่ในระดับที่ดี เราก็คาดว่าจะได้รับผลดีด้วย เพราะผลประกอบการของบริษัทจะเป็นกำไรหรือขาดทุนก็ขึ้นอยู่กับราคาสังกะสีตลาดโลก ราคาที่ดีขึ้นก็จากดีมานด์ซัพพลาย และเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว"นายชิตชัย กล่าว

สำหรับปริมาณผลผลิตในปี 53 บริษัทยังคงไว้ที่ 1.1 แสนตัน ซึ่งเป็นการผลิตเต็มที่ในทุกๆ ปี ค่อนข้างใกล้เคียงกันกับช่วงที่ผ่าน ๆ มา ส่วนการมองหาเหมืองใหม่ยังคงอยู่ในแผน คาดว่าจะมีการชี้แจงอีกครั้งในการประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 26 เม.ย.นี้

ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองที่วุ่นวายช่วงนี้ ผุ้บริหาร PDI มองว่าไม่กระทบกับการผลิตและจำหน่ายของบริษัท เพราะสินค้าของบริษัทไม่ใช่สินค้าขายปลีก หรือเป็นอุปโภคบริโภค เพราะสังกะสีเป็นลักษณะซื้อไปใช้ผลิตต่อ ถ้าเศรษฐกิจในประเทศดี บริษัทก็ดีด้วย ขณะเดียวกันถ้าเศรษฐกิจในประเทศชะลอ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาถึงการส่งออก

สำหรับราคาหุ้น PDI ที่ผ่านมาปรับขึ้น นายชิตชัย เชื่อว่ามาจากปัจจัยราคาสังกะสีเพิ่มขึ้นตามราคาโลหะสังกะสีในตลาดโลกที่ซื้อขายกันปรับขึ้น โดยเมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย.ราคาสังกะสีตลาดโลกปรับขึ้นมาอยู่แถว 2,400 เหรียญสหรัฐต่อตัน ในแง่ของทั้งอุตสาหกรรมก็ดีขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ราคา หุ้น PDI เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ได้ปรับขึ้นไปสูงสุด 25.25 บาท สูงสุดในรอบ 5 เดือน

บทวิเคราะห์ของบล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุว่า แม้ว่าราคาสังกะสีในช่วงต้นปีจะปรับฐานลง(ตามค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น) จาก 2,560 เหรียญตัน ณ ปลายปีก่อน มาต่ำสุดที่ 1,940 เหรียญตันในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่จากความต้องการที่แข็งแกร่งจากจีนและจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้างและผลิตรถยนต์ (สังกะสีใช้ในอุตสาหกรรมดังกล่าวประมาณ 50%) ก็ส่งผลให้ราคาสังกะสีสามารถไต่ระดับกลับขึ้นมาอยู่ที่ 2,380 เหรียญตันได้ โดยเพิ่มขึ้น 23% จากจุดต่ำสุดของปี

จากแนวโน้มของราคาสังกะสีที่มีการปรับตัวดีขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ราคาสังกะสีเฉลี่ยในไตรมาสแรกจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 2,273 เหรียญตัน เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 88% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,208 เหรียญตัน เมื่อบวกกับความต้องการใช้ที่ดีขึ้น ทำให้ประเมินในเบื้องต้นว่าผลกำไรปกติในไตรมาส 1/53 จะยังเติบโตได้จากไตรมาสก่อนและพลิกฟื้นอย่างมีนัยสำคัญจากผลขาดทุน 170 ล้านบาท หรือ 0.75 บาทหุ้น ในไตรมาส 1/52 จึงแนะนำ"ซื้อ"หุ้น PDI ราคาเป้าหมาย 24.40 บาท

"ราคาหุ้นของบริษัท PDI ซึ่งเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงในแง่ของรายได้และผลกำไรที่สูงขึ้นจากการปรับขึ้นของราคาสังกะสีกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นแค่ 13% ในช่วงเวลาเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นยังไม่สะท้อนกับราคาสังกะสีที่พุ่งขึ้น ซึ่งก็เป็นโอกาสลงทุนที่ดี" บทวิเคราะห์ ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ