ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดร่วงลงในวันนี้ โดยในระหว่างวันดัชนีดิ่งลงหลุดจากระดับ 10,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายหลังจากค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดร่วงลง 156.53 จุด หรือ 1.54% มาอยู่ที่ระดับ 10,030.31 จุด หลังจากดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือนที่ 9,999.59 จุด
ราคาหุ้นดิ่งลงเกือบทั้งกระดาน โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มเครื่องจักรไฟฟ้า และกลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง ร่วงลงหนักสุด ส่วนหุ้นกลุ่มประกัน กลุ่มไฟฟ้าและแก๊ส และกลุ่มเทคโนโลนีสารสนเทศ ดีดตัวขึ้น
ยูมิ นิชิมูระ นักวิเคราะห์จากบริษัท ไดวา ซิเคียวริตีส์ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงในวันนี้มาจากความผันผวนของสกุลเงินยูโรเมื่อเทียบกับเงินเยน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลกับข่าวรัฐบาลเยอรมนีประกาศคุมเข้มการซื้อขายหุ้นบางประเภท
สำนักงานกำกับดูแลทางการเงินของรัฐบาลกลางเยอรมนี (BaFin) มีคำสั่งห้ามทำชอร์ตเซลสำหรับหุ้นที่ยังไม่มีการกู้ยืมมาก่อน (naked short-selling) ซึ่งครอบคลุมถึงการห้ามทำ naked short-selling ในตราสารหนี้สกุลเงินยูโรที่มีความเสี่ยงสูง ตราสาร credit default swap (CDS) สกุลเงินยูโร และหุ้นของ 10 บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ของเยอรมนี รวมถึงดอยช์ แบงค์ เอจี และดอยช์ โพสต์แบงค์ เอจี
กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงของค่าเงินยูโรและปัญหาการเงินในยูโรโซนได้บดบังข้อมูลเชิงบวกของญี่ปุ่น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวในอัตรา 4.9% ต่อปี ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 4 ไตรมาส เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมส่งออก รวมทั้งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาคเอกชน