ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 68.46 จุด หลังสหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ร่วงหนัก

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 24, 2010 08:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพ.ค.ที่ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังร่วงลงหลังจากรัฐบาลอังกฤษประกาศมาตรการลดรายจ่ายและขึ้นภาษีครั้งใหญ่เพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 68.46 จุด หรือ 1.3% ปิดที่ 5,178.52 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,165.82 - 5,247.85 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนถูกกดดันจากความกังวลที่ว่าภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพ.ค.ร่วงลง 32.7% มาอยู่ที่ระดับ 300,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 410,00 ยูนิต เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการซื้อบ้าน ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาลได้หมดอายุลงในเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยลบจากข่าวที่ว่า รัฐบาลอังกฤษประกาศมาตรการลดรายจ่ายและขึ้นภาษีครั้งใหญ่เพื่อลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ลงมาให้ได้ภายในปีงบประมาณ 2558-59 โดยรัฐบาลอังกฤษจะตัดรายจ่ายประจำเพิ่มอีก 3 หมื่นล้านปอนด์ (4.4 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อปีภายในปีงบประมาณ 2557-2558 ข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ย่ำแย่ของสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนเขขายหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ โดยหุ้นลอนมินร่วง 3.2%, หุ้นเอ็กซ์สตราตา ดิ่งลง 2.9% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 1.9% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 2% และหุ้นบีพีขยับลง 0.2%

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงด้วยเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส ปิดลบ 3.2% หุ้นธนาคาร HSBC ปิดลบ 0.5% หุ้นลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดร่วง 0.9% หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดลบ 1.2% และหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดร่วง 1.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ