ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นบางแห่งในเอเชีย อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวเป็นไปอย่างผันผวนและวอลุ่มการซื้อขายเบาบาง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดมุมมองเศรษฐกิจ และหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ที่ร่วงลงอย่างหนัก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดบวก 4.64 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 9,928.34 จุด
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตแก้วและเซรามิก ร่วงลงหนักสุดในวันนี้ ตามด้วยหุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง และกลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัยพ์ กลุ่มสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค และกลุ่มเวชภัณฑ์ ดีดตัวขึ้น
ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดอ่อนตัวลงตั้งแต่ช่วงเช้า จากนั้นดัชนีก็ปรับตัวขึ้นและลง ท่ามกลางการซื้อขายที่ไร้ทิศทาง อย่างไรก็ตาม นิกเกอิสามารถปิดในแดนบวกได้เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นบางแห่งในเอเชีย และเงินเยนที่มีเสถียรภาพช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวล ถึงกระนั้นก็ตาม นักลงทุนลังเลที่จะส่งแรงซื้อเข้าหนุนตลาดให้สูงขึ้น
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวซบเซาลงเนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากเฟดประเมินภาวะเศรษฐกิจอย่างระมัดระวังภายหลังการประชุมที่เสร็จสิ้นเมื่อคืนนี้ โดยเฟดระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ 'ยังคงดำเนินต่อไป' ขณะที่ตลาดแรงงานค่อยๆปรับตัวดีขึ้นและตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ถูกจำกัดด้วยอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ เฟดระบุว่าวิกฤตหนี้สาธารณะของยุโรปส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนพ.ค.ร่วงลง 32.7% มาอยู่ที่ระดับ 300,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 410,00 ยูนิต เนื่องจากผู้บริโภคชะลอการซื้อบ้าน ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาลได้หมดอายุลงในเดือนเม.ย.