ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดร่วง 157.46 จุด จากความกังวลศก.โลกชะลอตัว-ปัญหาสภาพคล่องยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 30, 2010 08:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) โดยดัชนีดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวลง หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะขาดสภาพคล่องในระบบการเงินยุโรป ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดร่วงลงอย่างหนักด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 157.46 จุด หรือ 3.1% ปิดที่ 4,914.22 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,899.02 - 5,071.68 จุด

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาลง หลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.ของจีนขยับตัวขึ้นเพียง 0.3% ซึ่งเป็นระดับที่เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของจีนปรับตัวขึ้นน้อยกว่าที่เพิ่มขึ้น 1.7% ตามรายงานเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนผ่านพ้นจุดสูงสุงของการขยายตัวมาแล้ว

ขณะที่สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.ของสหรัฐร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 52.9 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 62.7 จุด

ราคาหุ้นในตลาดลอนดอนดิ่งลงทั้งกระดาน โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลกและจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจีน โดยหุ้นริโอทินโต ร่วงลง 6.4% และหุ้นเอ็กซ์สตราตา ปิดร่วง 6.1% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลกเช่นกัน โดยหุ้นบีพี ปิดลบ 1.7%

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลกับข่าวที่ว่าระบบการเงินของยุโรปกำลังขาดสภาพคล่องอยู่กว่า 1 แสนล้านยูโร เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ในยุโรปต้องเร่งระดมเงินเพื่อชำระคืนเงินกู้ฉุกเฉินให้กับธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มูลค่า 4.42 แสนล้านยูโร (5.455 แสนล้านดอลลาร์) ภายในวันพฤหัสบดีนี้ โดยหุ้นบาร์เคลย์ส ร่วงลง 6.3% และหุ้นธนาคาร HSBC ดิ่งลง 3.7%

ธนาคารกลางอังกฤษเตือนวิกฤตหนี้ยูโรโซนถือเป็นความเสี่ยงที่สำคัญต่อภาคการธนาคารของอังกฤษ พร้อมแนะให้ธนาคารภายในประเทศเพิ่มทุนสำรองเงินสดเพื่อเตรียมรับมือหากเกิดปัญหาขึ้น

ในรายงานเสถียรภาพการเงินครั้งล่าสุด แบงก์ชาติอังกฤษได้ขานรับมาตรการที่สหภาพยุโรปได้นำมาใช้เพื่อควบคุมวิกฤตไม่ให้ขยายเป็นวงกว้าง แต่ขณะเดียวกันแบงก์ชาติระบุว่า การที่ธนาคารต่างๆของอังกฤษได้เข้าไปลงทุนหรือมีธุรกรรมเกี่ยวข้องกับธนาคารอื่นๆของยุโรปอาจทำให้ธนาคารของอังกฤษตกอยู่ในความเสี่ยงได้ โดยนักลงทุนยังคงวิตกว่าประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรบางประเทศอาจผิดนัดชำระหนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ