นายสัญญา หาญพัฒนกิจพานิช ทีมพัฒนาธุรกิจตลาดอนุพันธ์ บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ในเดือน มิ.ย.53 บริษัทมีปริมาณการซื้อขายรวมในตราสารอนุพันธ์อยู่ที่ 74,932 สัญญา หรือมูลค่าเท่ากับ 41,996.30 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายโดยรวมครึ่งแรกของปี53 อยู่ที่ 270,910.29 ล้านบาท หรือจำนวน 476,593 สัญญา คิดเป็น 12.39 % เมื่อเทียบกับปริมาณการซื้อขายของทั้งตลาด ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.99% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนการซื้อขายอยู่ที่ 85,551 สัญญา หรือ 3.40% ของปริมาณการซื้อขายทั้งตลาด
สำหรับสาเหตุที่มูลค่าสัญญาเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาทองคำแท่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดตราสารอนุพันธ์ ทำให้บริษัทยังเป็นการครองอันดับหนึ่งในตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สด้วยปริมาณการซื้อขายล่วงหน้าทองคำถึง 132,723 สัญญา
"ภาวะการลงทุนในช่วงครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในและภายนอกอย่างต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกันโกลเบล็กก็ยังสามารถครองตำแหน่งจ้าวตลาดอนุพันธ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านปริมาณการซื้อขายและมูลค่าการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าประเภทต่างๆ" นายสัญญา กล่าวสำหรับในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯจะมีสินค้าใหม่ อาทิ Interest Rate Futures และ Mini-Gold Futures ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะช่วยให้ปริมาณการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ในตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ Mini-Gold Futures หรือสัญญาล่วงหน้าทองคำขนาด 10 บาท
“โดยส่วนตัวมองว่า Interest Rate Futures และ Mini-Gold Futures จะเป็นโปรดักส์ที่ได้รับการตอบรับจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ทำให้บรรยากาศการแข่งขันในการออกโปรโมชั่น รวมถึงการออกให้ความรู้กับลูกค้าคงทยอยเพิ่มขึ้น" นายสัญญา กล่าว
ทั้งนี้ โกลเบล็ก มีแผนจะหาลูกค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายของทั้ง 2 สินค้า ควบคู่ไปกับการกระตุ้นให้ลูกค้าโกลด์ฟิวเจอร์สที่มีอยู่แล้วหันมาใช้ประโยชน์จากสัญญาล่วงหน้า SET50 ให้มากขึ้นโดยบริษัทได้มีตั้งเป้ามูลค่าสัญญาที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 53 อีกกว่า 700,000 สัญญา
อย่างไรก็ตาม หลังสมาคม FI Club อนุมัติให้แต่ละโบรกเกอร์สามารถออกโปรโมชั่นให้กับลูกค้าโดยการให้รางวัลได้เป็นปีละไม่เกิน 2 ล้านบาท ทำให้นักลงทุนน่าจะได้รับประโยชน์มากขึ้น พร้อมทั้งคาดว่าแต่ละโบรกเกอร์มีแนวโน้มที่จะอัดเคมเปญกันในช่วงมินิโกลด์ฟิวเจอร์ส ยาวจนถึงงาน SET in the City อย่างแน่นอน ดังนั้น บริษัทก็เตรียมงัดโปรโมชั่นเพื่อตอบสนองให้กับลูกค้าTFEX ทั้งรายใหม่และรายเก่า ให้ได้รับผลประโยชน์สูงสุด
สำหรับส่วนแบ่งทางการตลาดนั้น นายสัญญา กล่าวว่า บริษัทฯจะยังคงรักษาส่วนแบ่งได้เกิน 10% ของตลาด ขณะเดียวกันจะเน้นให้ความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้าให้กับลูกค้า รวมถึงการพัฒนาบุคลากรที่มีอยู่ให้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องทองคำ, เรื่องหุ้น และเรื่องการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าให้มีศักยภาพมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการต่อยอดฐานลูกค้ารายใหม่ที่จะเข้ามาในอนาคต