โบรกฯเห็นพ้อง"ซื้อ"KBANK คาดกำไร Q2/53 โตสูง, H2/53 เป็น High Season

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 7, 2010 14:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้องแนะ"ซื้อ"หุ้นธนาคารกสิกรไทย(KBANK)เป็น Top Picks คาดกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/53 ในช่วง 4,530-4,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.3-26.0% yoy และ 3.8-7.0% qoq รับผลรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวของสินเชื่อ และยังมีการรับรู้จากเมืองไทยประกันชีวิตด้วย อีกทั้งการตั้งสำรองหนี้ในไตรมาส 2/53 ก็ลดลง รวมทั้งคาดว่าจะมีจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.50 บาท/หุ้น

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/53)ก็จะเป็นช่วง High Season ของ KBANK ด้วย อีกทั้งปัจจุบันตัวเลข NPL ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าแค่ 3% กว่าเท่านั้น

ส่วนทั้งปี 53 คาดว่า KBANK จะมีกำไรสุทธิ 16,499-18,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิประมาณ 14,900 ล้านบาท โดยกำไรปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้สูงกว่ากำไรของกลุ่มแบงก์ การขยายตัวของสินเชื่ออยู่ในระดับ 7-9% คุณภาพสินทรัพย์ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนเงินปันผลน่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.75 บาท/หุ้น

ในเชิงเทรดดิ้งมองแนวโน้มการประกาศผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มแบงก์โดยรวมน่าจะออกมาดี แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2/53 จะเจอผลกระทบจากเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมือง แต่สินเชื่อของกลุ่มแบงก์โดยรวมยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นหุ้นกลุ่มแบงก์ในช่วงนี้จึงน่าสนใจ

          โบรกเกอร์             คำแนะนำ           ราคาเป้าหมาย
          Merrill Lynch          ซื้อ                105.00
          Deutsche Bank          ซื้อ                117.00
          บล.ทิสโก้                ซื้อ                117.00
          บล.ยูไนเต็ด              ซื้อ                118.00
          บล.ทรีนิตี้                ซื้อ                118.00
          บล.เคทีซีมิโก้             ซื้อ                118.00
          บล.โกลเบล็ก             ซื้อ                126.00
          บล.เอเชีย พลัส           ซื้อ                125.79
          บล.บัวหลวง              ซื้อ                116.50
          บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)     ซื้อ                107.00
          บล.เกียรตินาคิน           ซื้อ                102.00
          บล.กรุงศรีอยุธยา          ซื้อ                103.00

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า หุ้น KBANK จัดเป็นหุ้น Top Picks ตัวหนึ่ง โดยผลประกอบการงวดไตรมาส 2/53 คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดี มีกำไรสุทธิ 4,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% qoq และเพิ่มขึ้น 22.3% yoy รับผลดีรายได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อ และยังมีรายได้จากเมืองไทยประกันชีวิตด้วย ทั้งนี้ คาดว่า KBANK จะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.50 บาท/หุ้น

ส่วนทั้งปี 53 คาดว่า KBANK จะมีกำไรสุทธิ 16,499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% จากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 14,892 ล้านบาท ซึ่งทั้งปีนี้มองเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 7-9% ส่วนเงินปันผลคาดว่าจะจ่ายประมาณ 2.75 บาท/หุ้น

ในเชิงเทรดดิ้ง มองแนวโน้มการประกาศผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มแบงก์โดยรวมน่าจะออกมาดี แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2/53 จะเจอผลกระทบจากเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมือง แต่สินเชื่อของกลุ่มแบงก์โดยรวมยังมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้นหุ้นกลุ่มแบงก์ในช่วงนี้จึงน่าสนใจ

นายธนัท รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา มองว่าเมื่อเทียบกับราคาหุ้น KBANK ในปัจจุบันยังมี upside อยู่ 12% อีกทั้งกำไรในงวดไตรมาส 2/53 มีการเติบโตที่สูง คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 4,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% yoy และเพิ่มขึ้น 7% qoq ซึ่งเป็นการเติบโตจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น และรายได้จากธุรกิจประกัน อีกทั้งการตั้งสำรองหนี้ในไตรมาส 2/53 ก็ลดลง เนื่องจากตัวเลข NPL ยังไม่น่าเป็นห่วง

สำหรับทั้งปี 53 คาดว่า KBANK จะมีกำไรสุทธิประมาณ 18,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของปี 52 ที่มี 14,900 ล้านบาท โดยกำไรปีนี้คาดว่าจะเติบโตได้สูงกว่ากำไรของกลุ่มแบงก์ที่คาดว่าจะเติบโต 13% ในปีนี้ เนื่องจาก KBANK รับรู้กำไรจากเมืองไทยประกันชีวิตเข้ามา และสินเชื่อปีนี้ก็คาดว่าจะขยายตัวได้ดีประมาณ 8% คุณภาพสินทรัพย์ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี

น.ส.ศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)มองว่า ผลประกอบการ KBANK ในปีนี้จะเติบโตได้ค่อนข้างดี จากการขยายตัวของสินเชื่อคาดว่าจะทำได้ถึง 9% จากที่ผู้บริหารคาดการณ์สินเชื่อทั้งปีนี้จะขยายตัวได้ 7-9% และ KBANK ยังได้มีการรับรู้รายได้เต็มปีจากเมืองไทยประกันชีวิตด้วย

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งหลังปีนี้(H2/53)ก็จะเป็นช่วง High Season ของ KBANK ด้วย เพราะปกติแล้ว KBANK จะมีการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังสูงกว่าช่วงครึ่งปีแรก อีกทั้ง ปัจจุบันตัวเลข NPL ของ KBANK ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าแค่ 3% กว่า

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ของ KBANK ไว้ที่ 17,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปีที่แล้วมีกำไรสุทธิ 14,900 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ