นายอุทัย แสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมีเนียม บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม 10 โครงการ มูลค่ารวม 1.76 หมื่นล้านบาท แต่จะมี 1 โครงการ ที่มีระดับราคา 1 ล้านบาท เพื่อเน้นกลุ่มลูกค้าระดับล่าง ส่วนที่เหลือจะมีระดับราคาอยู่ที่ 4 ล้านบาท
สำหรับโครงการคอนโดมีเนียมที่บริษัทเปิดขายในครึ่งปีแรก ประกอบด้วย PYNE by Sansiri และ Keyne by Sansiri รวม 650 ยูนิต ซึ่งขายได้เกือบหมดแล้ว ราคาเฉลี่ย 6.5 ล้านบาท แต่ในครึ่งปีหลังจะทำโครงการที่ถูกลงมาที่ระดับ 4 ล้านบาท และล่าสุดได้ลงมาจับราคาระดับล่าง เพราะต้องการทำได้ทุก Segment ซึ่งบริษัทมีทีมศึกษา และนโยบายจะหันมาตลาดคอนโดฯ มากขึ้น
"ถือเป็นครั้งแรกที่จับลูกค้าระดับล่าง ซึ่งขณะนี้ได้มีการยื่นขอ BOI แต่มองหาที่ดินอยู่" นายอุทัย กล่าวนายอุทัย กล่าวว่า ในเดือนส.ค.นี้ เตรียมที่จะเปิดตัวคอนโดฯ คอลเล็คชั่นใหม่ภายใต้คอนเซปต์ Live With Attitude ซึ่งเตรียมจะเปิดคอนโดฯ แรกภายใต้ชื่อ วายน์ สุขุมวิท (WYNE Sukhumvit) มูลค่าโครงการ 1.85 พันล้านบาท และจะทยอยเปิดอีก 2 โครงการใหม่ ทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้ารวม มูลค่า 7 พันล้านบาท ซึ่งโครงการดังกล่าวลูกค้าหลักจะเป็นคนรุ่นใหม่ และเน้นความสะดวกสบายในการเดินทาง ซึ่งคาดว่าเมื่อเปิดขายจะได้รับความสนใจ ส่วนราคาขายคาดว่าจะเห็นการปรับราคาของคอนโดฯ ในครึ่งปีหลังไม่เกิน 5% ภายใต้ราคาวัสดุก่อสร้างที่ยังปรับขึ้นไม่เยอะ
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมียอดขายรวม 1 หมื่นล้านบาท โดยเป็นคอนโดฯ 50% หรือ 5 พันล้านบาท และที่เหลือเป็นแนวราบ ขณะที่ยอดโอนอยู่ที่ 9 พันล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดฯ 4 พันล้านบาท และที่เหลือเป็นแนวราบ ขณะที่เป้าโอนคอนโดฯทั้งปีอยู่ที่ 8 พันล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกโอนได้แล้ว 4 พันกว่าล้านบาท โดยที่เหลือจะเป็นการโอนในครึ่งปีหลัง
ในส่วนทิศทางคอนโดมีเนียมในครึ่งปีหลัง นายอุทัย คาดว่าคอนโดมิเนียมยังเป็นตลาดที่น่าสนใจ ซึ่งเห็นได้จากดีมานด์ที่เติบโตโดยเฉพาะโครงการคอนโดฯที่ติดแนวรถไฟฟ้าจะได้รับความสนใจมาก ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปรับตัวดีและแข็งแกร่งขึ้น แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่ปรับขึ้นสูง ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรปรับเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีกำลังซื้อมากขึ้น การเมืองนิ่ง ซึ่งคาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะโตตาม GDP ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.5%
ส่วนเป้ายอดขายรวมทั้งปีอยู่ที่ 2.2 พันล้านบาท