ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าบวก 0.07% ตลาดซึม-ทยอยขายทำกำไรกลุ่มแบงก์ คาดบ่ายแกว่งตัวต่อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 30, 2010 12:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 855.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.61 จุด(+0.07 %)มูลค่าการซื้อขาย 11,599.69 ล้านบาท นักวิเคราะห์เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้อยู่ในภาวะซึมและแกว่งตัวส่วนใหญ่ในแดนลบ แต่ดัชนีปรับขึ้นมาปิดในแดนบวกได้ มูลค่าการซื้อขายชะลอตัว หลังทยอยขายทำกำไรกลุ่มแบงก์ และมีแรงซื้อเข้ามาในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และสื่อสาร นักลงทุนบางส่วนยังชะลอลงทุนรอดูตัวเลขจีดีพีสหรัฐ ก่อนกลับเข้าลงทุนใหม่ พร้อมให้แนวรับ 850 จุดและแนวต้าน 857 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 855.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.61 จุด(+0.07%)มูลค่าการซื้อขาย 11,599.69 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 856.23 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 851.98 จุด

นายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ บล.เคจีไอ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปิดในช่วงเช้าปรับตัวลดลงในกรอบแคบๆ เทรดกันอยู่ในกรอบ 852-856 จุด หลังมีแรงขายในกลุ่มแบงก์ต่อเนื่อง จาก 2-3 วันที่ผ่านมาราคาปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก ขณะที่กลุ่มพลังงานไม่มีการซื้อขายมากนักแม้ราคายังต่ำ จึงไม่ได้มีผลขับเคลื่อนดัชนีตลาดให้ปรับขึ้นไป การลงทุนเป็นลักษณะเวียนกลุ่มเล่นมีโอกาสแล้วก็ขายทำกำไรเป็นรอบ ๆ

อย่างไก็ตาม แม้วันนี้บางช่วงดัชนีจะบวกได้บ้างจากการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/53 ซึ่งส่วนใหญ่จะออกมาดี และหลายแห่งเริ่มจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรก แต่ก็เป็นประเด็นก่อนหน้านี้ที่คนรับรู้ไปแล้วก่อนหน้านี้ด้

ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศมีแนวโน้มขายหุ้นออกมาจากที่ซื้อเก็บ ณ ดัชนี 730-740 จุด ซึ่งจะเป็นแรงกดดันตลาดอีก สวนทางกับนักลงทุนต่างประเทศที่กลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นมีนัยสำคัญในช่วงสั้น คงต้องติดตามเม็ดเงินว่าจะมีความต่อเนื่องหรือไม่ แม้ภายใต้เศรษฐกิจไทยและภูมิภาคเติบโตจะเป็นปัจจัยหนุน แต่คงเป็นระยะ 1 เดือนข้างหน้ามากกว่า

นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อติดตามผลในคืนหนี้ของการประกาศตัวเลขจีดีพี และตัวเลขดัชนีภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ จึงทำให้ไม่กล้าเข้ามาลงทุนเต็มที่ พร้อมให้แนวรับวันนี้ 850 จุดและแนวต้าน 857 จุด

นายอนุพนธ์ ศรีอาจ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.บีฟิท กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบแคบตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ภาพรวมถือว่ายังดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปิดในแดนลบ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาและเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มมีการไหลกลับเข้ามาในตลาดฯมากขึ้น แต่ช่วงนี้เป็นลักษณะของประคองตัวถือหุ้นรอผลประกอบการและเงินปันผลระหว่างกาลของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ

"ภาพรวมก็ยังดูดีกว่าตลาดอื่นในต่างประเทศ เพราะว่าจริงๆในช่วงที่ผ่านมาเรามีการขึ้นดอกเบี้ย แล้วก็มีเงินที่ไหลเข้ามาเล่นกันจากต่างชาติ ที่เราเห็นยอดซื้อสุทธิเข้ามา ก็เลยทำให้ตลาดหุ้นเราก็ถือว่ายังประคองตัวได้ เวลาลงก็ไม่น่าจะลงอะไรมากมาย อาจจะมีการปรับตัวเล็กๆน้อยๆ ดูแล้วต่างชาติลงมากกว่า" นายอนุพนธ์ กล่าว

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้มองว่าตลาดฯยังคงเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบเช่นเดียวกับช่วงเช้า ให้แนวรับที่ 847-850 จุด แนวต้านที่ 860 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 822.82 ล้านบาท ปิดที่ 4.36 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท

DTAC มูลค่าการซื้อขาย 756.26 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 735.83 ล้านบาท ปิดที่ 88.75 บาท ลดลง 1.50 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 462.73 ล้านบาท ปิดที่ 93.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 365.41 ล้านบาท ปิดที่ 100.50 บาท ลดลง 3.00 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ