นางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. อินเตอร์แนชั่นเนิล เอนจีเนียริง(IEC) กล่าวว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้น IEC วันนี้มีมติอนุมัติแผนเพิ่มทุน 2.72 หมื่นล้านหุ้น ขายผู้ถือหุ้นเดิมอัตราส่วน 1 ต่อ 1 ที่ราคา 0.02 บาท/หุ้น โดยหากผู้ถือหุ้นใช้สิทธิทั้งจำนวน บริษัทก็จะได้รับเงิน 540 ล้านบาท ซึ่งตามแผนงานจะแบ่งเงิน 300 ล้านบาทเข้าร่วมทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานขยะขนาด 6 เมกะวัตต์ และอีก 240 ล้านบาทจะลงทุนวางระบบเครือข่ายบริการทีวีบนมือถือกับบมจ.อสมท.(MCOT)
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าโรงไฟฟ้าขยะจะเริ่มเห็นรายได้ชัดเจนในปี 54 ซึ่งหลังจากได้รับเม็ดเงินเพิ่มทุนแล้ว ก็จะมีการลงทุนวางระบบและก่อสร้าง กว่าจะเดินเครื่องได้น่าจะเป็นปีหน้า ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทเปลี่ยนไป เพราะจะมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าเข้ามาเป็นรายได้ของธุรกิจใหม่ ขณะที่รายได้จากธุรกิจโทรคมนาคมปรับลดลง
"บริษัทมีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนกับเจ้าของเทคโนโลยีที่มีความชำนาญในโรงไฟฟ้าขยะ หากเริ่มโครงการแรกได้ก็จะเป็นก้าวต่อไปที่จะทำโครงการอื่นในอนาคต โดยโครงการนี้ได้รับการอุดหนุนค่าไฟ(adder) 3.50 บาท/หน่วย"นางสัณหจุฑา กล่าว
นางสัณห์จุฑา กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้สอบถามถึงการลงทุนดังกล่าวค่อนข้างมาก เพราะมีความกังวล เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมีแผนลงทุนด้านธุรกิจพลังงานมาแล้วแต่ต้องล้มไปจากปัญหาที่มีกับผู้ร่วมทุน อาทิ โครงการเอทานอล ปัจจุบันอยู่ระหว่างการฟ้องร้อง หากคดีจบเชื่อว่าบริษัทจะได้รับเงินคืนประมาณ 600 ล้านบาท ขณะนี้ศาลชั้นต้นตัดสินให้บริษัทชนะคดี แต่คู่กรณีกำลังยื่นอุทธรณ์
นอกจากนั้น บริษัทยังต้องตั้งสำรองในโครงการวางระบบอินทริเกรดบิลลิ่งของบมจ.กสท.โทรคมนาคม 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่บริษัทเรียกเก็บเงินจากโครงการดังกล่าว เนื่องจาก กสท.ไม่ส่งข้อมูลที่จำเป็นในการวางระบบมาให้กับบริษัท เพราะติดปัญหาการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร บริษัทยังมั่นใจว่าโครงการนี้จะสามารถผ่านพ้นไปด้วยดีและเรียกเก็บเงินได้
"หากคดีเอทานอลชนะและได้เงินจาก กสท.เชื่อว่าผลประกอบการที่ขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องจะกลับมาเป็นบวก และมั่นใจว่าแม้ว่าบริษัทจะขาดทุนหลายไตรมาสติดต่อกัน แต่จะไม่โดนดีลีทออกจากตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากทรัพย์สินมีมากกว่าหนี้สิน"นางสัณห์จุฑา กล่าว
ส่วนเม็ดเงินจากการเพิ่มทุนอีก 240 ล้านบาทที่จะนำมาลงทุนวางระบบทีวีบนมือถือให้กับ อสมท. ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา
นางสัณห์จุฑา กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีการลงทุนในพอร์ตไม่เกิน 100 ล้านบาท ซึ่งจะรักษาระดับดังกล่าวไว้ โดยจะเน้นการลงทุนในระยาว ไม่เน้นหุ้นทำกำไรหวือหวา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็ถือว่าพอร์ตลงทุนให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับช่วงแฮมเบอเกอร์ไครซิสที่มีผลขาดทุนค่อนข้างมาก
บริษัทยังอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนธุรกิจโทรศัพท์มือถือทั้งรูปแบบและโครงสร้างเพื่อให้ธุรกิจมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น จากที่ผ่านมาสร้างผลตอบแทนขาดทุน และมาร์จิ้นต่ำ น่าจะเห็นความชัดเจนใน 1 เดือนข้างหน้า