ตลท.ให้รับหลักทรัพย์ IFS เข้าทำการซื้อขาย 10 ส.ค.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 6, 2010 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า บมจ. ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ และเริ่มซื้อขายตั้งแต่วันอังคารที่ 10 ส.ค.53 เป็นต้นไปโดยใช้ชื่อย่อว่า IFS

IFS ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานเกือบ 20 ปี โดยมีธุรกิจหลักคือ สินเชื่อการรับโอนสิทธิเรียกร้อง(Factoring) ให้บริการสินเชื่อระยะสั้นแก่ผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs ในกรุงเทพและปริมณฑล รวมทั้งเขตนิคมอุตสาหกรรม โดยมีฐานลูกค้าและลูกหนี้การค้าที่เป็นผู้ประกอบการจำนวนมาก นอกจากนี้ บริษัทยังประกอบธุรกิจสินเชื่อลีสซิ่งประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน (Financial Lease) และสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase) รวมทั้งบริการเสริมอื่น ๆ ครบวงจร โดยมี บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำกัด (สิงคโปร์) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (ข้อมูลตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนของ IFS)

IFS มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 470 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 350 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น โดยบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO: Initial Public Offering) เมื่อวันที่ 30 ก.ค. และ 2-3 ส.ค.53 จำนวน 117.5 ล้านหุ้น พร้อมทั้งเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กรรมการ และ/หรือผู้บริหาร 2.5 ล้านหุ้น ในราคา 1.35 บาทต่อหุ้น มูลค่าการระดมทุนครั้งนี้เท่ากับ 162 ล้านบาท บริษัทจะนำเงินระดมทุนที่ได้ไปใช้ในการขยายการให้บริการสินเชื่อ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ ระดับราคา IPO ที่ 1.35 บาทต่อหุ้น มีที่มาจากการสำรวจปริมาณความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) ของผู้ลงทุนสถาบัน ทั้งนี้ ราคาการเสนอขายในครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ประมาณ 7.27 เท่า(คำนวณจากประมาณการกำไรสุทธิปี 2553 (Annualization) ที่จำนวนหุ้น 470 ล้านหุ้น) โดย IFS มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองตามกฎหมาย

หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ IFS ได้แก่บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้น 36.64% และบริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล จำกัด (สิงคโปร์) ถือหุ้น 36.49%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ