หุ้น KC ปิดเทรดช่วงเช้าที่ 6.06% มาอยู่ที่ 1.05 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท มูลค่าซื้อขาย 135.24 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.18 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1 บาท
นายชาย งามอัจฉริยะกุล ผู้จัดการฝ่ายบริหารและในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของ บมจ.เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ (KC)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ถึงกระแสข่าวในห้องค้าหลักทรัพย์ว่า KC กำลังจะมีพันธมิตรใหม่ว่า บริษัทฯยอมรับว่าได้มีการพูดคุยกับผู้ที่สนใจจะเข้ามาเป็นพันธมิตรหลายราย แต่ยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงว่าจะเลือกใคร และการเจรจาก็ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด ซึ่งเชื่อว่าการเจรจาคงยังไม่จบในเร็ว ๆ นี้
"หากเขาเข้ามาแล้วเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นทางเราก็เปิดทาง ซึ่งทางเราก็มีการพูดคุยกันอยู่เป็นพัก ๆ หลายราย แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดอะไร เพราะคนที่เขามาคุยด้วยนั้นยังไม่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ หากใครจะเข้ามาเป็นพันธมิตรของบริษัทฯจะต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ"นายชาย กล่าวผู้จัดการฝ่ายบริหาร และในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุดของ KC กล่าวว่า ราคาหุ้น KC ในปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี(Book value)ที่อยู่ในระดับ 1.60 บาท/หุ้น ขณะที่บริษัทฯยังมีกำไรสะสมมากพอสมควร และสามารถสร้างผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลกำไรของบริษัทฯในปี 53 คงจะออกมาดีกว่าปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 10.43 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/53 สามารถทำกำไรสุทธิไปได้ 7 ล้านบาทแล้ว และช่วงครึ่งหลังปีนี้บริษัทฯมีแผนจะเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.2-1.3 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีหน้า