รายงานการซื้อขายตลาดอนุพันธ์(TFEX)วันนี้ มีการซื้อขายรวม 16,154 สัญญา เป็น SET50 Index Futures จำนวน 6,796 สัญญา โดยสัญญา S50U10 มีปริมาณการซื้อขาย 6,308 สัญญา, สัญญา S50Z10 มีปริมาณการซื้อขาย 474 สัญญา, สัญญา S50H11 มีปริมาณการซื้อขาย 13 สัญญา ส่วนสัญญา S50M11 ปริมาณซื้อขาย 1 สัญญา
ส่วน Single Stock Futures มี 4,463 สัญญา โดยสัญญา ADVANC Futures มีปริมาณการซื้อขาย 3 สัญญา, สัญญา BANPU Futures มีปริมาณการซื้อขาย 2 สัญญา, สัญญา ITD Futures มีปริมาณการซื้อขาย 2,069 สัญญา, สัญญา KTB Futures มีปริมาณการซื้อขาย 2,214 สัญญา,
สัญญา LH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 51 สัญญา, สัญญา PTT Futures มีปริมาณการซื้อขาย 3 สัญญา, สัญญา PTTEP Futures มีปริมาณการซื้อขาย 15 สัญญา, สัญญา QH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 16 สัญญา และ สัญญา TTA Futures มีปริมาณซื้อขาย 90 สัญญา
ขณะที่ สัญญา BBL Futures ,สัญญา BAY Futures ,สัญญา KBANK Futures ,สัญญา SCB Futures และ สัญญา SCC Futures ไม่มีการซื้อขาย
ส่วน Gold Futures มีปริมาณการซื้อขาย 4,611 สัญญา แบ่งเป็นสัญญาละ 50 บาท จำนวน 3,572 สัญญา และ สัญญาละ 10 บาท จำนวน 1,039 สัญญา
สำหรับ SET50 Options มีการซื้อขายรวม 284 สัญญา แบ่งเป็นคอลออปชั่น จำนวน 84 สัญญา และพุทออปชั่น จำนวน 200 สัญญา
ดัชนีอ้างอิงวันนี้ SET50 Index อยู่ที่ 590.21 จุด บวก 4.52 จุด (+0.77%)
นางสาวมยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อ ขาย SET50 วันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยในส่วนตลาดหุ้นภูมิภาคก็ยังอยู่ในกรอบแคบ เพราะรอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศ ออกมาในคืนนี้หลายรายการสำคัญ เช่น ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือน ก.ค. ,ข้อมูลการ เริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนก.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI)เดือน ก.ค
ฉะนั้น ดัชนีตลาดในวันนี้ โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ก็เคลื่อนไหวในกรอบที่แคบมาก ขณะที่ SET50 Futures สัญญา U10 ก็ยัง ไม่สามารถขึ้นไปได้แรงเช่นกัน โดยมีแนวรับบริเวณ 580 จุด นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูทิศทางกันอีกครั้งหนึ่ง สังเกต ได้จากมูลค่าซื้อขายที่ชะลอตัวลงมาค่อนข้างชัดเจน
แนวโน้มตลาดพรุ่งนี้น่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะเดียวกันก็ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศคืนนี้ ซึ่งหากออกมาดี หรือดีกว่าคาด ก็คิดว่าตลาดหุ้นดาวโจนส์คงจะฟื้นตัวได้แรง แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยคงฟื้นตัวไม่เท่าสหรัฐ เพราะ สัปดาห์ที่แล้วหุ้นไทยปรับลงเพียง 1% ขณะที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับลงไป 2% ฉะนั้นการดีดกลับอาจจะจำกัดกว่า
"คนที่สถานะ long ก็ hold เพราะเราเชื่อว่ายังไงก็แล้วแต่ตลาดเราก็จะต้องกลับมา perform กันอีกครั้งหนึ่ง คง ต้องรอช่วงต้นสัปดาห์หน้าที่จะมีเรื่องมาบตาพุดในวันที่ 23 ส.ค. ถ้ามีการปลดล็อกชึ้นมาว่ โรงแยกก๊าซไม่ได้ติดในรายการที่เป็น อันตราย ตัวปตท.ก็คงน่าจะกลับมาเป็นตัวนำสำหรับตลาดได้ ส่วนคนที่ถือสถานะ short คิดว่า 560 จุดคงหลุดได้ค่อนข้างยาก น่าจะ ทยอยปิดสถานะ short ดีกว่าแล้วกลับมาเปิดสถานะ long ตรงบริเวณ 580 จุด"
ส่วนทองคำ รอบนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ 1,220 จนถึง 1,230 เหรียญ/ออนซ์ จึงเห็นว่าคนที่มีสถานะ long น่า จะต้องทยอยปิดทำกำไรออกไปบ้าง แถวบริเวณ 18,500 บาทสำหรับ GFQ10 ไม่ว่าจะเป็นขนาด 10 บาท หรือ 50 บาท บาท เพราะรอบนี้ขึ้นมาแล้ว 200 กว่าบาท เพราะราคาทองคำอาจขยับขึ้นไปได้จำกัด
และไม่แนะนำให้เปิดสถานะใดๆ เพราะกรอบอยู่ที่ 18,400 บาทซึ่งเป็นแนวรับ และแนวต้านไปที่ 18,550-18,600 บาท มองความเป็นไปได้ 50/50 ที่จะได้เสีย จึงไม่น่าเข้าลงทุน เพราะเวลาลงทุนควรมองว่าโอกาสที่ราคาขึ้นน่าจะต้องมากกว่าลง ถึงจะเข้าไป long หรือโอกาสลงมากกว่า ก็น่าจะ short