ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าร่วงลงในวันนี้ (20 ส.ค.) เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลร์สหรัฐ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดภาคเช้าร่วงลง 108.04 จุด หรือ 1.15% แตะที่ 9,254.64 จุด
หุ้นกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหินร่วงลงหนักสุดในช่วงเช้าวันนี้ ตามด้วยหุ้นกลุ่มกระดาษและเยื่อกระดาษ และกลุ่มคลังสินค้า
หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมส่งออกร่วงลงอย่างหนัก หลังจากเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับ 84.89 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะทำให้กำไรในตลาดต่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่นหดตัวลงด้วย
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งขึ้น 12,000 ราย สู่ระดับ 500,000 ราย ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2552 ที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานพุ่งแตะระดับ 500,000 คน
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย ระบุว่าดัชนีกิจกรรมด้านการผลิตในเขตมิด-แอตแลนติกหดตัวลงสู่ระดับ -7.7 จุดในเดือนส.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะดีดตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม นิกเกอิปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจใช้มาตรการผ่อนปรนด้านการเงินในการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง และนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจที่คาดว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
หนังสือพิมพ์ซันเคอิ ชิมบุนรายงานเมื่อวานนี้ว่า บีโอเจอาจจะขยายโครงการเงินกู้เป็น 30 ล้านล้านเยน จากเดิม 20 ล้านล้านเยน และอาจขยายเวลาการชำระคืนเงินกู้ออกไปเป็น 6 เดือน จากเดิม 3 เดือน ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0.1%