ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 899.99 จุด เพิ่มขึ้น 6.07 จุด(+0.68%)มูลค่าการซื้อขาย 16,581.55 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 900.78 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 895.97 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น และดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้จะมีการแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตเศรษฐกิจในสหรัฐฯ แต่ยังดีที่ปัจจัยลบจากสหรัฐฯและยุโรปยังไม่มีอะไรที่เป็นลบเพิ่มขึ้นมาอีก ขณะที่ข้อดีในแถบเอเชียมาจาก Fund Flow ที่ยังไหลเข้าและเศรษฐกิจอยู่ในทิศทางที่ดี
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเรารับแรงหนุนหลักจากปัจจัยในประเทศ ทั้งเรื่องตัวเลข GDP ของไทยที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ ทำให้เป็น Sentiment บวก และยังรอลุ้นเรื่องมาบตาพุด โดยตลาดมองว่าการประกาศ 18 ประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรง น่าจะออกมาในทิศทาง positive ต่อโครงการลงทุนหลักหลายโครงการ อีกทั้งในวันพุธนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ซึ่งภาพในประเทศเป็นบวก ทำให้เชื่อว่า Flow ยังคงไหลเข้า
อย่างไรก็ดี ให้ระวัง profit taking และจับตา Flow อย่างใกล้ชิดด้วย เพราะเมื่อไรที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ก็อาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาได้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังสามารถยืนแดนบวกได้ โดยต่างก็รอลุ้นเรื่องมาบตาพุดอยู่ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 892-906 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,112.04 ล้านบาท ปิดที่ 1.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท
SAMART มูลค่าการซื้อขาย 873.44 ล้านบาท ปิดที่ 9.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
SAMTEL มูลค่าการซื้อขาย 843.51 ล้านบาท ปิดที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 809.40 ล้านบาท ปิดที่ 274.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 588.65 ล้านบาท ปิดที่ 269.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท