(เพิ่มเติม) JMART คาดครึ่งปีหลังกำไรดีกว่าครึ่งปีแรก หลังเปิดตัวโทรมือถือ CC-Chat

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 7, 2010 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจมาร์ท (JMART) คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะมีกำไรดีกว่าในงวดครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 33.8 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้เปิดตัว"CC-Chat"ที่เป็นบริการใหม่พร้อมโทรศัพท์มือถือ jFone 7 รุ่นใหม่ โดยตั้งเป้าจะมีผู้ใช้บริการ 1 แสนรายจนถึงสิ้นปีนี้ และขายเครื่องโทรศัพท์มือถือได้ราว 1 แสนเครื่อง

และมั่นใจว่ากำไรสุทธิในปีนี้ของบริษัทจะเติบโต 40% จากปีก่อน (90 ล้านบาท)ได้ตามเป้า เพราะการเปิดบริการใหม่และมือถือดังกล่าวจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมามีอัตรา 12% โดยมือถือรุ่นใหม่นี้จะมีอัตรากำไรขั้นต้น 20-50%

"ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 จะเป็นมีผลประกอบการที่ดีที่สุด 2 เดือนที่ผ่านมาเราก็รู้แล้วว่าความรู้สึกเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น แม้ว่าในไตรมาส 2 เราจะโดนชุมนุมการเมือง แต่ผมมั่นใจว่าตัวนี้ (CC-Chat) จะเป็นตัวดึงให้เราดีขึ้น เพราะดีมานด์มีสูงมาก"นายอดิศักดิ์ กล่าว

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทเปิดตัวบริการ CC-Chat บริการแชท ล่าสุดบนโทรศัพท์มือถือ jFone ตอบรับกระแสนิยมการติดต่อสื่อสารแบบ Social Network แต่มีข้อจำกัดที่ราคาเครื่องและค่าบริการสูง ดังนั้น จึงนำเสนอเครื่องโทรศัพท์มือถือ jFone ระดับราคาตั้งแต่ 1,990 บาท ถึง 2,999 บาท คิดค่าบริการอัตราเพียง 39 บาทต่อสัปดาห์ สามารถใช้กับเครือข่ายของ 3 โอเปอเรเตอร์คือ เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ เพื่อหวังเจาะกลุ่มวัยรุ่น

จุดเด่นของ บริการ CC-Chat มีการใช้งานที่ง่ายที่เพียงทำกรสมัครบริการดังกล่าว ด้วบเบอร์โทรศัพท์ และชื่อของผู้สมัครกับเครื่อง jFone ที่มีให้บิรการ โดยสามารถรับส่งข้อมูลแม้เครื่องปิดยังสามารรับข้อความได้ รวมทั้งแชทผ่านรูปภาพ อีเมล์ และข้อความเสียงได้ นอกจากนี้บริการ push mail , บริการส่งรูป โดยไมต้องดาวน์โหลดไฟล์ภาพ และ บริการรับส่งข้อความเสียง

ทั้งนี้ งบประมาณในส่วนการวางระบบและการตลาด รวมกันประมาณ 50 ล้านบาท โดยได้ บริษัท เม็กซีเท็กซ์ จากจีนเป็นผู้พัฒนาซอฟท์แวร์

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า นอกเหนือจากบริษัทจะมีรายได้จากการขายเครื่องมือถือใหม่ภายใต้ชื่อ jFone ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ราว 200 ล้านบาท จากยอดขาย 1 แสนเครื่อง และบริษัทยังมีรายได้แอร์ไทม์ ซึ่งแบ่งรายได้กับ 3 โอเปอแรเตอร์ คือ เอไอเอส ดีแทค และ ทรูมูฟ โดยทั้งสองส่วนนี้คาดว่าจะมีสัดส่วน 20% ของกำไรสุทธิปีนี้

และ ในปี 54 บริษัทมีแผนจะออกโทรศัพท์มือถือ jFone รุ่นใหม่ที่มีความใกล้เคียงกับเครื่องแบล็กเบอร์รี่ แต่ราคาถูกกว่าและสามารรถรองรับระบบ 3G จึงมองว่าในปีหน้าจะเป็นปีทองธุรกิจมือถือ

นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ปีนี้รายได้จะได้ตามที่คาดการณ์ไว้ 6 พันล้านบาท จากเป้าหมายยอดขาย 1 ล้านเครื่อง โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อเครื่อง 4 พันกว่าบาท สูงกว่าอุตสาหกรรมที่มียอดขายต่อเครื่อง 2-3 พันบาท เนื่องจากบริษัทขายเครื่องมือถือทุกยี่ห้อ และมี outlet กระจายตามใจกลางเมือง 210 สาขา และสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 220 สาขา ส่วนปีหน้ามีแผนเพิ่มเป็น 280 สาขา ขณะเดียวกันก็ลดจำนวนวันเก็บสต็อกสินค้าเหลือ 40 กว่าวันจากเดิมเคยสูงถึง 70-80 วัน เมื่อปลายปี 52

ขณะที่ในสิ้นปีนี้คาดว่า ส่วนแบ่งตลาดเฮ้าส์แบรนด์เพิ่มมาเป็น 7-8% จากปีก่อนมีส่วนแบ่งตลาด 2-3%

อย่างไรก็ดี นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทืไม่มีแผนจะเป็นผู้ค้าส่งระบบ 3G หรือ MVNO เพราะไม่ต้องการเลือกที่จะอยู่กับค่ายใดค่ายหนึ่งเท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ