หุ้น TTCL ราคาพุ่งขึ้น 6.94% มาอยู่ที่ 9.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 113.92 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.11 น. โดยเปิดตลาดที่ 8.95 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 9.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 8.90 บาท
บล.เอเชีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น (TTCL)ผลจากการรับรู้รายได้ที่ค่อนข้างต่ำในงวด 1H53 ประกอบกับมีแผนรับรู้รายได้ตาม Backlog ช่วง 2H53 ประมาณ 4 พันล้านบาท ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการรายได้ปี 53 ลง 10% เหลือ 7,126 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม มีการปรับสมมุติฐาน gross margin ขึ้น ให้สอดคล้องกับสถานะ Backlog ปัจจุบันที่มี gross margin เฉลี่ยประมาณ 12% ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิในปี 53 ยังคงเท่าเดิมที่ 313 ล้านบาท
สำหรับปี 54 คาดว่าการเซ็นสัญญารับงานใหม่ที่จะมีมากขึ้น จะทำให้รายได้กลับเข้าใกล้ 1 หมื่นล้านบาทได้อีกครั้ง โดยความชัดเจนเกี่ยวกับกรณีมาบตาพุด ประกอบกับดัชนีตลาดที่ได้ปรับตัวขึ้นมาที่ PER 14 เท่า ทำให้มีการปรับเพิ่ม Fair Value ของ TTCL ขึ้นจากเดิมที่กำหนดที่ PER 12 เท่า เป็น 14 เท่า ให้สอดคล้องกับดัชนีตลาดรวม และเปลี่ยนไปใช้ฐานกำไรปี 54 ในการกำหนด Fair Value แทน จะให้ราคาเหมาะสมที่ 11 บาท มี
หลังศาลปกครองมีคำพิพากษาปลดล็อคมาบตาพุด ทำให้โครงการลงทุนต่างๆที่ชะลอการประมูลไปก่อนหน้านี้ เริ่มกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยปัจจุบัน TTCL เข้าร่วมประมูลงาน 14 โครงการทั้งในและต่างประเทศ มูลค่ารวม 5.45 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้มี 4 โครงการ มูลค่า 6.3 พันล้านบาท ที่ TTCL เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด ซึ่งน่าจะสรุปผลได้บางโครงการภายในปีนี้
ขณะที่งานก่อสร้างโรงปุ๋ยในประเทศโมรอกโก มูลค่า 450 ล้านเหรียญฯ แม้ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรป ทำให้การสรุปผลต้องล่าช้าออกไปจากเดิมที่คาดว่าจะทราบผลภายใน 4Q53 แต่ก็ถูกชดเชยได้ด้วยงานประมูลจากโครงการอื่นๆ ที่มีเข้ามาเป็นจำนวนมาก
Backlog ณ สิ้น ส.ค.53 มีอยู่ 7.3 พันล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ใน 2H53 ประมาณ 4 พันล้านบาท และรับรู้ส่วนที่เหลือในปี 54 โดย TTCL ประเมินรายได้ปี 53 ไว้ที่ระดับ 7 พันล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านบาทในปี 54
สถานะการเงินที่แข็งแกร่งมาก โดยสิ้น ก.ค.53 TTCL ดำรงสถานะเป็น Net Cash และมีเงินสดในมือ บวกกับเงินลงทุนระยะสั้น รวมกันสูงถึง 2.4 พันล้านบาท ทำให้มองหาโอกาสการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาว และเป็นการเพิ่มเสถียรภาพของกำไรในอนาคต โดยปัจจุบันกำลังศึกษาธุรกิจโรงไฟฟ้า SPP ขนาด 110 MW คาดว่าจะจัดตั้งบริษัทย่อยได้ภายในปีนี้ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในส่วนของ TTCL ประมาณ 40 ล้านเหรียญฯ และน่าจะเริ่มสร้างรายได้เข้ามาในปี 56 ประมาณปีละ 1,200 ล้านบาท