นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดให้บริการศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ นี้ ตามกำหนด หลังจากได้ปิดปรับปรุงซ่อมแซมด้วยงบว่า 2,800 ล้านบาท ซึ่งในการเปิดให้บริการครั้งนี้ จะเปิดให้บริการ 80% ของพื้นที่ คือ เปิดทุกโซน ยกเว้นโซนเอเทรียม ชั้น 1-7 บริเวณที่ติดกับห้างสรรพสินค้าเซน
และเซ็นทรัลเวิลด์จะสามารถเปิดให้บริการได้เต็ม 100% ภายในสิ้นปีนี้ และในส่วนของห้างสรรพสินค้าเซนจะสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายในเดือนส.ค.54
“โครงสร้างของเซ็นทรัลเวิลด์ได้รับการอนุมัติจากสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และได้รับการรับรองจากสมาคมวิศวกรรมสถานถึงความปลอดภัย นอกจากนี้ เรายังได้ลงทุนเพิ่มในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นระบบใหม่และทันสมัยที่สุด" นายกอบชัย กล่าว นอกจากนี้ ยังได้ลงทุนเพิ่มในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย ที่ได้มาตรฐานระดับโลกมาใช้ อาทิ มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดควันในพื้นที่ร้านค้า และติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติมอย่างทั่วถึงตลอดทั้งลานจอดรถ ทั้งภายในและนอกอาคาร มีการควบคุมประตูและทางเข้า ผ่านศูนย์บริหารควบคุมความปลอดภัยส่วนกลาง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้มาใช้บริการ
นายกอบชัย กล่าวว่า การกลับมาของเซ็นทรัลเวิลด์ครั้งนี้จะมีร้านค้าใหม่เกือบ 40 ร้าน สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบแฟชั่นจะมีแบรนด์ใหม่ๆ ชั้นนำที่ไม่เคยเปิดที่ใดในไทยมาก่อน อาทิ Fred Perry, Stardivarius, Footwork Noir, Glam Rock รวมถึงร้านแบรนด์ดีไซน์เนอร์ไทยชั้นนำ อาทิ Disaya, Boudoir, Kloset, Munchu’s, Senada
สำหรับ ชั้น 7 ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารขึ้นชื่อ และเป็นแหล่งแฮ็งค์เอาท์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นั้น ได้ออกแบบตกแต่งใหม่ทั้งหมด ในคอนเซ็ปต์ของสวน และตั้งชื่อใหม่ว่า Garden on 7
นอกจากนี้ โซนที่ยังไม่เปิดให้บริการ และอยู่ในระหว่างการก่อสร้างจะปิดกั้นพื้นที่แยกส่วนแบบชัดเจน เพื่อปลอดภัย และป้องกันฝุ่นและเสียงที่จะรบกวนผู้มาใช้บริการ และในส่วนของระบบอากาศภายใน มีการทำความสะอาดท่อลมแอร์ ทั้งภายในและภายนอก เพื่อกำจัดกลิ่น รวมทั้ง ฆ่าเชื้อในระบบเครื่องทำความเย็น อีกทั้งยังตรวจสอบคุณภาพอากาศ และทดสอบก่อนใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะมาใช้บริการในศูนย์ฯ ได้อย่างสบาย
*คาดยอดผู้ใช้บริการ"เซ็นทรัลเวิลด์"กว่า 1 แสนคน/วันหลังเปิด 28 ก.ย.
นายกอบชัย คาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หลังจากที่บริษัทเปิดให้บริการในวันที่ 28 ก.ย นี้ ไม่ต่ำกว่า 1 แสนคนต่อวัน และคาดว่าจะกลับมาเป็นปกติที่ 1.5-2 แสนคน/วันในเดือนธ.ค นี้ จากที่เปิด 100% แล้ว
การกลับมาในครั้งนี้จะมีการเปิดแบรนด์สินค้าใหม่เพิ่มขึ้น ทั้งนำเข้าและในประเทศ ขณะที่ร้านค้าเก่าคาดว่าจะสามารถกลับมาเปิดบริการเกือบครบ 100 % ซึ่งทางบริษัทจะมีการให้ส่วนลดค่าเช่าพื้นที่กว่า 20-30% เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการfh;p
ทั้งนี้ บริษัทจะมีการใช้งบการตลาดอีก 120 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบเดิมที่บริษัทวางแผนว่าจะใช้ในช่วงก่อนหน้านี้ และคาดว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะทยอยใช้และหมดภายในไตรมาส 4/53 นี้ ในการจัดกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ เพื่อดึงดูดการกลับมาใช้บริการของลูกค้า
ส่วนการชุมนุมในวันที่ 19 กย. นี้นั้น นายกอบชัย กล่าวว่า ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง โดยได้มีการเตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยการติดตั้งแผงเหล็ก บริเวณแนวรั้วศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งจะใช้เงินลงทุนจำนวน 20-30 ล้านบาท ในการเพิ่มระบบความปลอดภัยให้มากขึ้น และยังเตรียมเงินลงทุนประมาณ 200-300 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการรักษาความปลอดภัยในศูนย์การค้าทุกแห่งของบริษัทฯ อีกด้วย
"การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ย.นี้เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ทุกคนมีสิทธิที่ทำได้ เชื่อว่าไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น น่าจะอยู่ในกรอบของความสงบเรียบร้อย เพราะคนได้เห็นผลกระทบในเหตุการณ์ครั้งที่แล้ว และเราก็ยังร่วมมือกับรัฐบาลและประสานงานในระบบข้อมูลข่าวสาร เพื่อรองรับการชุมนุมที่จะเกิดขึ้น" นายกอบชัย กล่าว
ส่วนการเข้าซื้อกิจการของคาร์ฟูร์นั้น นายกอบชัย กล่าวว่า ไม่ได้ทราบเรื่องดังกล่าว และในส่วนการลงทุนห้างสรรพสินค้าในจีน ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ก็ได้มีการมองประเทศอื่น ๆ เพิ่มด้วย