AOT แจงเลิกสัญญาปาร์คกิ้งฯ เหตุสร้างปัญหากระทบบริการ-ส่งรายได้ไม่ครบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 5, 2010 14:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.อรอนงค์ หยิบยานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลนักลงทุน บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)แจงเหตุยกเลิกสัญญา บริษัท ปาร์คกิ้ง แมนเนจเม้นท์ บริหารที่จอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ หลังเกิดความวุ่นวาย-ขัดแย้งภายในอย่างหนัก เคลียร์ไม่ลงตัว จุดแตกหักทำผิดสัญญาคือกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธบุกยึดลานจอดรถเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลกระทบกับการให้บริการและภาพพจน์ของประเทศ ซ้ำที่ผ่านมาส่งรายได้ไม่ครบตามสัญญา เตรียมหักลบกลบหนี้เงินค้ำประกันที่วางไว้ และหารายใหม่เข้ามาทำแทน

*เหตุที่ต้องยกเลิกสัญญา

"เราไม่ทราบหรอกว่าเขามีปัญหาภายในอะไรกันยังไง แต่ว่าในแง่ของเรา เราทำตามกฎหมาย จริง ๆ เป็นความขัดแย้งของเขา เพราะเราได้ให้สัมปทานไปแล้วอย่างถูกต้อง พื้นที่ตรง Car Park เราให้สัมปทานเขาไป แล้วเขาก็มีความขัดแย้งกันเอง แล้วตามกฎหมายเราไม่สามารถจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาได้ แต่เราได้มีการแจ้งตำรวจและส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจตรา แล้วแจ้งเตือนเขาตลอดเวลาว่ามันจะส่งผลกระทบต่อการให้บริการ"

*ส่งพื้นที่ให้"ปาร์คกิ้งฯ"บริหารตั้งแต่เมื่อไร

"เราส่งพื้นที่ให้เขาบริหารตั้งนานแล้ว คือหลังจากที่เขาได้สัมปทานไป เขาก็เริ่มเข้าบริหารตั้งแต่ 1 เมษายน ปีนี้(2553)แต่เขาขัดแย้งกันเอง เรื่องพื้นที่ และเป็นปัญหาวุ่นวายขึ้นมา และในฐานะที่เราเป็นเจ้าของสถานที่ ณ วันนี้ดำเนินการทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะเราก็ต้องป้องกันการถูกฟ้องร้องว่า เข้าไปยุ่งเกี่ยวในพื้นที่ของเขาด้วย"

*ทาง AOT มีการจัดเก็บรายได้อย่างไร

"คือที่เป็นข่าวออกไปก็เข้าใจ แต่จริง ๆ แล้วเราปฏิบัติโดยถูกต้อง ปกติเราหักเงินประกันเดือนต่อเดือนอยู่แล้ว ก็คือจริง ๆ แล้วเราคิดรายได้จากเขาประมาณ 75% จากยอดรายได้ที่เขาจัดเก็บมา หรือ minimum garantee ที่ 16.5 ล้านบาท/เดือน เพราะฉะนั้นถ้าเขามียอดไม่ถึงเราก็เก็บตาม minimum garantee"

"ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาทางเขาก็จ่าย คือนับตั้งแต่ 1 เมษายนที่เขาได้สัมปทานไป เขาก็ส่งยอดเข้ามา เพียงแต่เขาขัดแย้งกัน คืออย่างที่บอกเขามีปัญหาภายในกันเอง แล้วเวลาส่งมาตัวเลขก็ไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตาม เดือนเมษายนตัวเลขยอดผู้โดยสารมันตกอยู่แล้ว เราก็ประเมินจากที่เราเคยได้รับ คือเมื่อก่อนเราบริหารกันเองนะ ตอนผู้โดยสารปกติเท่าไร ช่วงนั้นผู้โดยสารมัน drop ไปเยอะ เราก็เลยคิดจาก minimum garantee บวกกับค่าเช่า ก็ประมาณ 20 กว่าล้านบาท เดือนแรกเราก็เก็บไปประมาณนี้"

"เดือนต่อ ๆ มาเราก็หักตามแบงก์ garantee เขามีปัญหาภายใน เขาก็เลยไม่ได้ส่งให้ เราก็ใช้วิธีหักเอา ก็มีบางเดือนที่ยังไม่ได้หัก โดยเราหักเขาช่วง 2-3 เดือนแรก แต่ตอนนี้เหมือนเขาติดค้างเราอยู่ แต่อย่างไรก็ตามเงินประกันมัน cover อยู่แล้ว เขาวางเงินประกันครั้งแรกประมาณ 120 กว่าล้าน ก็ cover ได้จนถึง ณ ปัจจุบันถึงเดือนตุลาคมถ้าหักก็พอ เท่าที่ทราบจากเจ้าหน้าที่ 2 เดือนหลังนี้ไม่ได้มีการหักจากเขา"

*เคยมีการผ่อนผันให้กับ"ปาร์คกิ้งฯ"หรือไม่

"จริง ๆ เรามีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินที่ได้รับผลกระทบอยู่ด้วย คืออันนี้เป็นมาตรการปกติอยู่แล้ว เขาก็ถือเป็นผู้ประกอบการหนึ่งเหมือนกัน เราก็มีการ delay การจ่ายเงินให้ หมายถึงว่าเลื่อนการจ่ายเงินให้ ตรงนี้ก็เหมือนว่าเรายังไม่ได้หัก แต่เราก็ยังมียอดแบงก์ garantee อยู่ ซึ่งเราจะหักได้อยู่แล้ว แต่คิดว่าตอนนี้หลังยกเลิกสัมปทานแล้วก็ต้องมาดูว่าจะมีการติดค้างค่าใช้จ่ายกันอยู่เท่าไร"

*สถานการณ์การให้บริการอาคารจดรถเข้าสู่ปกติแล้วหรือยัง

"ณ วันนี้เราได้ยกเลิกสัญญา เพราะเขาไม่สามารถที่จะไปเคลียร์กันเองได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา และคงจะไม่มีอะไร ผู้ใช้บริการสามารถเอารถเข้าไปจอดที่ Car Park ได้เหมือนเดิม เพราะตอนเกิดเหตุการณ์ก็เข้าไปใช้บริการได้ แต่ก็เข้าใจว่าอาจจะไม่ค่อยสบายใจในการเอารถเข้าไปจอด"

"ตอนนี้สถานการณ์เป็นปกติแล้ว แม้ ณ วันนี้ยังเป็นคนของเขาอยู่ที่เข้าไปเก็บเงิน เพราะสัญญายังไม่ได้ยกเลิกอย่างเป็นทางการ เราอยู่ในระหว่าง process การเตรียมร่างสัญญายกเลิก แล้วก็จะส่งไปถึงเขา หลังจากที่เขาได้รับหนังสือสัญญายกเลิก ภายใน 7 วันเขาจะต้องออกจากพื้นที่ ณ เวลานั้นเราจะส่งคนของเราเข้าไปพื้นที่ และจัดเก็บ บริหารจัดการ จนกว่าเราจะได้คนใหม่เข้ามา เราจะใช้คนของเราทำเองสักระยะหนึ่ง แล้วก็จะจ้างคนอื่นมาบริหารเหมือนเดิม"

*ทำไมถึงไม่บริหาร Car Park เอง

"เราเคยทำมาก่อนหน้านี้ ถ้าเทียบแล้วค่าใช้จ่าย-รายได้ที่ได้รับ มันสู้กับการที่ให้คนมารับสัมปทานไม่ได้ เพราะเราต้องจ้างคนมา ขณะที่รายได้ที่ได้รับ.... คือเทียบกับแล้วมันน้อยกว่านะ จ้างคนดีกว่า"

"คือมันจะต้องมีการร่าง TOR คือตอนนี้ยังคงคุยกันอยู่ในรายละเอียด ก็คืออาจจะหยิบ TOR อันเก่าขึ้นมาดู แล้วเปิดประกาศรับ ก็คงจะไม่นาน เพราะเราก็ต้องรีบเหมือนกัน และก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของผู้ใช้บริการว่าอาจจะไม่มั่นใจในแง่ของความปลอดภัย จบคงจะเร็ว ๆ นี้ เพราะเราเริ่มตั้งแต่เมื่อวาน(4 ต.ค.)ประธานบอร์ดได้มีมติออกมาแล้ว วันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้วส่งให้กับฝ่ายกฎหมายของเรา ร่างเรื่องยกเลิกแล้วส่งให้บริษัทฯไป

*กรณีที่เกิดขึ้นนี้จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ AOT หรือไม่

"ไม่นะค่ะ ตัวเลขน้อยมาก จริง ๆ รายได้จากตรงนี้ถือว่าน้อย เมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ มันนิดเดียว ไม่ได้มากมายอะไร เพราะรายได้หลักไม่ได้มาจากตัวนี้ แต่มันเป็นบริการที่ให้กับผู้โดยสาร"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ