PS คาดรายได้ Q4/54 เหลือ 3.5- 4 พันลบ. จากคาด 1.1 หมื่นลบ. จากน้ำท่วม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 28, 2011 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมบูรณ์ วศินชัชวาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวางแผนการเงิน บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท (PS) แจ้งว่า ตามที่ได้เกิดภาวะอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตภาคกลางของประเทศไทย และในเขตกรุงเทพและปริมณฑล และบริษัทได้รับผลกระทบโดยตรงต่อโครงการและโรงงาน

โดยบริษัทมีโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยรวมทั้งหมด 284 โครงการโดยเป็นโครงการที่ปิดการขายไปแล้ว (Closed Project) 143 โครงการ มีโครงการที่ยังเปิดขาย (Active Project) อยู่ทั้งสิ้น 141 โครงการ ในโครงการที่ยังเปิดการขายแล้ว 141 โครงการ มีโครงการที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วม 63 โครงการคิดเป็น ร้อยละ 45 ของโครงการที่เปิดขาย ในจำนวนนี้ มีโครงการที่ได้รับผลกระทบมาก คือ น้ำท่วมในระดับตั้งแต่ 20 เซนติเมตร ขึ้นไป จำนวน 48 โครงการ คิดเป็น ร้อยละ 34 ของโครงการที่เปิดขาย ส่วนที่เหลือเป็นการท่วมพื้นที่โดยรอบโครงการ มีการไหลซึมเข้าในโครงการบ้างสูงไม่เกิน 20 ซม.

ส่วนโครงการที่ปิดการขายและทำการโอนบ้านเกือบทั้งหมดไปแล้ว 143 โครงการ ในจำนวนนี้มีโครงการที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 81 โครงการ โดยมีโครงการที่ได้รับผลกระทบมาก คือน้ำท่วมในระดับตั้งแต่ 20 เซนติเมตร ขึ้นไป จำนวน 76 โครงการ หรือคิดเป็นร้อยละ 53 ของโครงการที่ปิดการขายแล้ว

โรงงานผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนน ลำลูกกา ช่วงระหว่างคลอง 4 และคลอง 5 อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี โดยถนนหน้าโรงงานมีน้ำท่วมสูง และไหล่เข้าท่วมโดยรอบโรงงาน บริษัท ฯ ได้ทำการยกเครื่องจักรสำคัญและมูลค่าสูงขึ้นที่สูง และก่อกระสอบทรายและพนังกั้นน้ำ และใช้เครื่องสูบน้ำออก โดยน้ำเข้าท่วมในโรงงานผลิตสำคัญ คือ โรง 1 และ 5 ระดับน้ำสูงสุดที่ 10 เซนติเมตรบริษัท ฯ ได้เริ่มหยุดการผลิต ตั้งแต่ปลายเดือน ตุลาคม 2554

และอุทกภัยที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบโดยตรงด้านรายได้ จาก โครงการที่เปิดขาย (Active Project) 63 โครงการ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม มี ยอดมูลค่าบ้านที่ขายแล้ว แต่ยังไม่ได้โอน (Backlog) คือ บ้านแนวราบ 3,595 หลัง มูลค่า 6,660 ล้านบาท - อาคารชุด 1,401 ยูนิต มูลค่า 1,135 ล้านบาท (ท่วมเพียงทางเข้า — ออก โครงการ) เมื่อเทียบกับ มูลค่า Backlog ทั้งหมด ณ 30 กันยายน 2554 จำนวน 37,417 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนบ้านที่ได้รับผลกระทบร้อยละ 20 ของมูลค่าบ้านที่ขายแล้วรอโอน ส่งผลกระทบให้รายได้ที่ชะลอลง เนื่องจากลูกค้าชะลอการรับโอนบ้านจากโครงการที่อยู่ในเขตน้ำท่วม การเดินทางไม่สะดวก ตัวลูกค้าเองก็ได้รับผลกระทบ จึงทำให้รายได้ของบริษัทที่คาดว่าจะมีตามแผนในไตรมาส 4/54 ที่ 11,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีการเลื่อนการโอนออกไปประมาณ 7,000-7,500 ล้านบาท คงเหลือเป็นรายได้ประมาณ 3,500-4,000 ล้านบาท

ผลกระทบด้านกระแสเงินสดและการปรับตัว จากผลกระทบข้างต้น ทำให้กระแสเงินสดไหลเข้าลดลงเนื่องจากการโอนบ้านไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทำให้บริษัท ฯ ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อลดกระแสเงินไหลออก และรักษาหรือเร่งเงินไหลเข้า ดังนี้

1) เน้นการสร้างบ้านที่พร้อมโอนในเวลาอันใกล้ เช่น อาคารชุดที่ใกล้เสร็จสมบูรณ์ หรือบ้านในโครงการที่ไม่อยู่ในเขตพื้นที่น้ำท่วม

2) ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจ ติดตามแก้ปัญหาให้กับลูกค้า

3) ลดหรือเลื่อนรายจ่ายต่างๆ ที่ไม่เร่งด่วน เช่น ค่าฝึกอบรม ค่าที่ปรึกษา ค่าใช้จ่ายทางการตลาด หรือโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

4) ลดหรือเลื่อน การซื้อที่ดินใหม่ ลดการซื้อสินทรัพย์ถาวรขนาดใหญ่ ชะลอการลงทุนในต่างประเทศ

การคาดการณ์หลังน้ำท่วม ภายหลังน้ำลด บริษัท ฯ คาดว่าจะต้องทำความสะอาด และซ่อมบำรุงบ้านสร้างเสร็จ (House Stock) ที่ขายแล้วแต่ยังไม่ได้โอน ซ่อมบำรุงสาธารณูปโภคต่าง ๆ รั้วโครงการ ถนนในโครงการซึ่งอาจต้องใช้เงินประมาณ 70-100 ล้านบาท

ส่วนโรงงานผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป ในขณะนี้ถนนหน้าโรงงานระดับน้ำลดลงจนแห้ง เปิดการสัญจรได้ตามปกติแล้ว อยู่ระหว่างการเข้าทำความสะอาด ขนย้ายกระสอบทรายและคันดินที่สร้างไว้ออก ติดตั้งอุปกรณืที่ขนย้ายขึ้นที่สูงกลับเข้าที่ และเตรียมเปิดสายการผลิตตามปกติ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในต้นเดือนธันวาคม นับเป็นระยะเวลาในการปิดโรงงานทั้งสิ้นประมาณ 40 วัน

ทั้งนี้ไม่มีโครงสร้างอาคารหรือเครื่องจักรราคาสูงได้รับความเสียหายรุนแรงแต่อย่างใด บริษัทฯ มีการทำประกันภัยความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมไว้บางส่วน คาดว่าจะได้รับค่าชดเชยบ้างบางส่วน แต่บริษัทฯ ไม่ได้ทำประกันภัยในส่วนรายได้ที่เสียไป (Business Interruption) ในช่วงหยุดการผลิตไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ