NUSA จะใช้เงินไม่เกิน 700 ลบ.ซื้อหุ้น"วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ" จำนวน 1.17%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 30, 2015 09:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) เตรียมใช้เงินไม่เกิน 700 ล้านบาท ซื้อหุ้นบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) ในสัดส่วน 1.17% เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และช่วยสร้างความมั่นคงทางรายได้และกระแสเงินสด

NUSA แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ อนุมัติให้บริษัท ณุศา พาวเวอร์ จำกัด เข้าลงทุนใน WEH ซึ่งทำโรงไฟฟ้าพลังงานลม โดยณุศา พาวเวอร์ จะเข้าซื้อหุ้น WEH จากบริษัท ดีดี มาร์ท โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในปัจจุบันของ WEH จำนวน 1,272,728 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ (พาร์) 10 บาท คิดเป็น 1.17% ในราคาซื้อหุ้นละ 550 บาท รวมเป็นราคาซื้อหุ้น WEH ไม่เกิน 700,000,400 บาท

โดยณุศา พาวเวอร์ จะดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 16 ต.ค. โดยเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 2.8 พันล้านบาท จากเดิมที่ 1 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญจำนวน 27,990,000 หุ้น พาร์หุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นในณุศา พาวเวอร์ ไม่น้อยกว่า 99.99% ซึ่งณุศา พาวเวอร์ ได้เรียกชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวในครั้งแรก จำนวน 25% คิดเป็นจำนวน 700 ล้านบาท โดยบริษัทจะชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว จากเงินที่ได้จากการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดจากบริษัท รวมจำนวน 700 ล้านบาท

ทั้งนี้ ณุศา พาวเวอร์ จะเข้าทำรายการดังกล่าวภายหลังจากที่เงื่อนไขบังคับก่อนต่างๆในสัญญาซื้อขายหุ้นที่ณุศา พาวเวอร์ และดีดี มาร์ท โฮลดิ้ง จะได้ลงนามในวันที่ 30 ต.ค.นี้สำเร็จครบถ้วน

สำหรับ WEH ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ในการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานลม และให้บริการเกี่ยวกับการพัฒนาจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม แก่บริษัทย่อย และเป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ปัจจุบัน WEH มีโครงการที่ได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) แล้ว 8 โครงการ โดยมีปริมาณขายไฟฟ้าตามสัญญา 690 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีกำลังการผลิตติดตั้งทั้ง 8 โครงการ รวม 736.6 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้สามารถจ่ายไฟฟ้าได้แล้ว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเค.อาร์.ทู. และโครงการเฟิร์สโคราชวินด์ NUSA ระบุว่าการลงทุนในธุรกิจอื่นที่มีความมั่นคงทางด้านรายได้และกระแสเงินสด เช่นธุรกิจพลังงานนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงต่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูง และภาวะอุตสาหกรรมยังมีความผันผวน นอกจากนี้ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนนั้น เป็นธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐและมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพย่อมที่จะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้บริษัทเติบโตด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ