PSTC ลงทุนพลังงานทางเลือก 5 แห่ง 962 ลบ.,เพิ่มทุนให้ผถห.1:1 แถมวอแรนต์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 16, 2015 10:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมกาบริษัทมีมติเห็นสมควรให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 เพื่อพิจารณาให้บริษัทและบริษัทย่อยของบริษัทลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจพลังงานทางเลือก จำนวน 5 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 962 ล้านบาท

ได้แก่ 1)พิจารณาอนุมัติให้บริษัท เข้าซื้อหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดในบริษัท อรัญ เพาเวอร์ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย ซึ่งมีกำลังการผลิต 4 เมกะวัตต์ โดยมีที่ตั้งโครงการอยู่ที่ ตำบลวังลึก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี และได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อเดือนมี.ค.57 ในราคาเบื้องต้นประมาณ 228.3 ล้านบาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม พร้อมดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนของอรัญเพาเวอร์ อีกเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 176.7 ล้านบาท เพื่อให้อรัญเพาเวอร์ใช้คืนเงินกู้ยืม ซื้อที่ดินซึ่งเป้นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าจากกลุ่มผู้ขายหุ้นอรัญเพาเวอร์ เพื่อปรับปรุงสินทรัพย์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในอนาคต อย่างไรก็ตาม มูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งโครงการจะไม่เกิน 405 ล้านบาท

นอกจากนี้ อรัญเพาเวอร์ยังมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอีกหนึ่งฉบับ ซึ่งมีขนาดพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 4 เมกะวัตต์ ณ ปัจจุบัน อรัญเพาเวอร์ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการใดๆ โดยบริษัทคาดว่าจะดำเนินการในอนาคตค ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าว มีกำหนดวันเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (SCOD) ในวันที่ 30 ก.ย. 60

2)พิจารณาอนุมัติให้บริษัท เข้าซื้อหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดในบริษัท เศรษฐีสุพรรณ ไบโอกรีน เพาเวอร์ จำกัด ผู้ประกอบการกิจการธุรกิจไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจากน้ำเสีย ซึ่งมีกำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ โดยมีที่ตั้งโครงการอยู่ที่ตำบลตลิ่งชัน อำเภอเมืองสุพรรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี และได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อเดือน ต.ค. 58 ในราคาเบื้องต้นประมาณ 43.4 ล้านบาท จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมซึ่งมิได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท และดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนของเศรษฐีสุพรรณ อีกจำนวนทั้งสิ้น ประมาณ 153.6 ล้านบาท เพื่อให้เศรษฐีสุพรรณใช้คืนเงินกู้ยืม ซื้อที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าจากกลุ่มผู้ขายหุ้นเศรษฐีสุพรรณเพื่อปรับปรุงสินทรัพย์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม มูลค่าเงินลงทุนทั้งโครงการจะไม่เกิน 197 ล้านบาท

นอกจากนี้ 3) พิจารณาอนุมัติให้บริษัท ไบโอโกกรีน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนประมาณร้อยละ 99.7 ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลกำลังการผลิต 990 กิโลวัตต์ (KW) ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งปัจจุบันไบโอโกกรีนได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว (ทั้งนี้ ไบโอกรีนอยู่ระหว่างดำเนินการเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากจังหวัดตรังไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช) โดยมีมูลค่าเงินลงทุนเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท

4)ให้ไบโอโกกรีน ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลกำลังการผลิต 990 กิโลวัตต์ ในจังหวัดสุโขทัย ซึ่งปัจจุบันไบโอโกกรีนได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว โดยมีมูลค่าเงินลงทุนเป็นจำนวนเงินไม่เกิน 120 ล้านบาท

5)ให้โบโอโกกรีน ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลกำลังการผลิต 990 กิโลวัตต์ ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งปัจจุบันไบโอโกกรีนได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว โดยมีมูลค่าเงินลงทุนเป็นจำนวนไม่เกิน 120 ล้านบาท

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นสมควรให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 เพื่อพิจารณาอนุมัติการลดทุนจดทะเบียนจำนวน 432,250 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 225,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 224,567,750 ล้านบาท โดยตัดหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายรวมจำนวน 4,322.500 หุ้น มูลค่ามที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท

และพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (PSTC-W1) จำนวนไม่เกิน 442,283,875 หน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (Right Offering:PO) ในอัตราส่วน 5 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่าและมีราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิ PSTC-W1 ดังกล่าว เท่ากับ 0.50 บาทต่อหุ้น

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นสมควรเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 268,029,783.30 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่เป็นจำนวน 492,597,533.30 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2,680,297,833 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท

จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 2,211,419,375 หุ้น เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วน (RO) เสนอขายในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.40 บาท โดยผู้ถือหุ้นเดิมจองซื้อเกินกว่าที่กำหนดไว้ได้

ให้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนพร้อมใบสำคัญแสดงสิทธิ PSTC-W1 ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดในวันจันทร์ที่ 4 ม.ค. 59 (Record Date) และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนการโอนหุ้นในวันอังคารที่ 5 ม.ค. 59 รวมทั้งกำหนดระยะเวลาจองซื้อและขำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนในวันที่ 25 - 29 ม.ค. 59

นอกจากนี้ จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกิน 442,283,875 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของ PSTC-W1 ที่บริษัทจะออกให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อหุ้น และได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วน

จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 26,594,583 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท เพื่อรองรับการปรับสิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ PSTC-ESOP เนื่องขากการเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท และมีมติแต่งตั้งบล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญครั้งนี้

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทย่อย จากชื่อเดิม บริษัท พีเอสที เอนเนอร์ยี 5 จำกัด หรือ PST Energy 5 Company Limited เป็นเชื่อใหม่ บริษัท พีเอสทีซี เอนจิเนียริ่ง จำกัด หรือ PSTC Engineering Company Limited

กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2558 ในวันพุธที่ 23 ธ.ค. 58 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมภัตตาคารจิตรโภชนา โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมในวันที่ 27 พ.ย. 58 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 30 พ.ย. 58

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ