(เพิ่มเติม) TWZ ลงทุน 298.75 ลบ.โซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ 5 MW คาด COD ใน Q1/60,หวังรายได้ 30-40 ลบ./ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 7, 2016 10:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางปิยะนุช รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น (TWZ) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารมีมติอนุมัติการเข้าลงงทุนซื้อหุ้นสามัญในบริษัท มาสเทค ทูล แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (MASTECH) ในสัดส่วน 80% ของทุนชำระแล้วทั้งหมด หรือ จำนวน 80,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท จำนวน 70 ล้านบาท จองซื้อหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนจำนวน 1,000 หุ้น ราคา 100 บาท จำนวน 0.10 ล้านบาท และใส่เงินลงทุนเพิ่มเติมสำหรับก่อสร้างและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์(MW) จำนวน 228.65 ล้านบาท รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมด 298.75 ล้านบาท

ทั้งนี้ MASTECH มีธุรกิจการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ตามสัญญาให้ผู้สนับสนุนโครงการดำเนินการโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร พ.ศ. 2558 ใช้สิทธิขายไฟฟ้าของเจ้าของโครงการ โดยโครงการตั้งอยู่ที่ สหรกรณ์ผู้เลี้ยงโคมนมหินซ้อน จำกัด ตำบลวังม่วง อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี เป็นการร่วมมือกับสหกรณ์โคนมหินซ้อน จำกัด ได้รับแจ้งผลการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)กำลังการผลิตตามสัญญา 5 เมกกะวัตต์ ลงวันที่ 29 เม.ย.59

โครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วตั้งแต่เดือน ส.ค. 59 และคาดว่าน่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.59 และสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์(COD)ได้ในไตรมาส 1/60

TWZ แจ้งว่าสัญญาซื้อขายหุ้นจะดำเนินการโดยผู้ซื้อ คือ บริษัท เกียร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (GEAR) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ TWZ ผู้ขายคือ บริษัท มาสเทค กรีน จำกัด โดยแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของโรงไฟฟ้าและการก่อสร้างและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าจะมาจากเงินกู้ยืมสถาบันการเงินประมาณ 230 ล้านบาท หรือ 80% ของเงินลงทุนทั้หงมดของโครงการ ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 70 ล้านบาทจะมาจากแหล่งเงินทุนของบริษัท

ปัจจุบัน บริษัทได้มีการออกและเสนอขายตั๋วแลกเงินระยะสั้น จำนวน 200 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการเจรจาเงินกู้โครงการกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง คาดว่าจะได้รับอนุมัติวงเงินประมาณ 230 ล้านบาท แต่มีเงื่อนไขในการให้เงินกู้เมื่อบริษัทสามารถจ่ายไฟในเชิงพาณิชย์แล้ว ซึ่งประมาณเดือน ธ.ค.59 ถึง ม.ค. 60 ก็จะสามารถนำเงินกู้จากสถาบันการเงินนำมาชำระคืนตั๋วแลกเงินได้ตามกำหนดคือ ม.ค. 60 ตามแผนที่วางไว้

ทั้งนี้ การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิจย์สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานระยะยาวของบริษัท ที่ต้องการมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน การเข้าซื้อหุ้น MASTECH จะทำให้บริษัทได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้า (ร.ง.4) สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ กฟภ.ซึ่งช่วยลดขั้นตอนเกี่ยวกับการจัดหาที่ดิน ใบอนุญาต และร่นระยะเวลาการลงทุนในโครงการ ทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ การลงทุนในโครงการดังกล่าวถือเป็นการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพและสามารถสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอจากการจำหน่ายไฟฟ้า โดยฝ่ายบริหารและที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทได้ร่วมกันประเมินและศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในโครงการดังกล่าว ด้วยการจัดทำประมาณการทางการเงินเป็นระยะเวลา 25 ปี และคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการ (Project IRR) ได้มากกว่า 12.07%

โครงการมีมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดสุทธิ(NPV) เท่ากับ 79.24 ล้านบาท และมีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 7.15 ปี ดังนั้น การลงทุนในโครงการดังกล่าวจึงสามารถสร้างผลตอบแทนในอัตราที่เหมาะสมให้กับบริษัท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรและทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีขึ้น รวมถึงมีเงินสดสำรองและมีสภาพคล่องเพื่อการขยายธุรกิจในอนาคต

นางปิยะนุช กล่าวว่า การขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนของ TWZ ในครั้งนี้ เป็นการขยายไปสู่ธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต และสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ได้อย่างสม่ำเสมอ โดยบริษัทคาดว่าจะรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าปีละ 30-40 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจพลังงานทดแทนเป็นธุรกิจที่บริษัทให้ความสนใจมาโดยตลอด และได้ศึกษาข้อมูลมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในที่สุด ซึ่งการเข้าถือหุ้น 80% ใน MASTECH ทำให้เราได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบกิจการโรงไฟฟ้า (ร.ง.4) สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับ กฟภ. ที่ช่วยลดขั้นตอนเกี่ยวกับการจัดหาที่ดิน ใบอนุญาต และร่นระยะเวลาการลงทุนในโครงการ ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าได้เร็วขึ้น

"เรายังคงยืนยันว่า ธุรกิจหลักของ TWZ ยังคงเป็นธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ที่มีสัดส่วนรายได้สูงที่สุด แต่การตัดสินใจขยายสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เพราะต้องยอมรับว่า แม้ว่าธุรกิจสื่อสารยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีตามกระแสหลัก แต่การปรับตัวของรายได้มีความผันผวน เป็นไปตามฤดูกาลขาย ทำให้เราคิดว่า เราควรจัดโครงสร้างรายได้ให้มีความสมดุล เป็นโครงสร้างที่มีเสถียรภาพ ลดความผันผวน ซึ่งความสม่ำเสมอของรายได้จากการไฟฟ้าของธุรกิจใหม่ สามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุด" กรรมการผู้จัดการ TWZ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ