บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) อนุมัติให้กลุ่มบริษัทเข้าร่วมลงทุน โดยถือหุ้นสัดส่วน 75% ในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเทศมองโกเลีย ในโครงการ Khoshight Kundi หลังจากนี้ฝ่ายจัดการจะดำเนินการเข้าทำสัญญาการร่วมลงทุน ซึ่งรวมถึงสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น (shareholders Agreement) และสัญญาซื้อหุ้น (Share Purchase Agreement) กับผู้ร่วมลงทุน และบริษัทที่เป็นเจ้าของโครงการดังกล่าว (Tenuun Gerel Construction LLC) ต่อไป โดยคาดว่าการเข้าทำสัญญาดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/60
สำหรับผู้ร่วมลงทุนในโครงการ เป็นพันธมิตรธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่นและมองโกเลีย ในสัดส่วนรวม 25% ขณะที่กลุ่มบริษัทจะเข้าร่วมทุนในสัดส่วน 75% ด้วยการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทที่เป็นเจ้าของโครงการ (Project Company) โดยอาจรวมถึงการซื้อหุ้นเดิมของ Project Company จากผู้ถือหุ้นเดิม หากมีข้อจำกัดทางกฎหมายที่จำเป็นเพื่อการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน รวมถึงการให้กู้ยืมแก่ Project Company ตามสัดส่วนเงินลงทุนในโครงการตามที่ตกลงกับผู้ร่วมลงทุนอื่น
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทจะมีข้อผูกพันในการเข้าลงทุนในโครงการนี้รวมประมาณ 17 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมูลค่าดังกล่าวยังไม่ได้คิดรวมการจัดหาเงินกู้โครงการในอนาคตที่อยู่ในแผนงาน ซึ่งหากการจัดหาเงินกู้ดังกล่าวเป็นไปตามแผน เงินลงทุนในโครงการที่กลุ่มบริษัทต้องใช้จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Khoshight Kundi มีกำลังการผลิตติดตั้ง 16.4 เมกะวัตต์ (MW) ใช้แผงโซลาร์เซลล์แบบ Poly Crystalline ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง Ulaanbaatar ประเทศมองโกเลีย ใกล้กับที่ตั้งของสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ของมองโกเลีย โดยโครงการอยู่ในช่วงเริ่มดำเนินการก่อสร้าง และมีกำหนดเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ภายในไตรมาส 1/62 ขณะที่โครงการได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลญี่ปุ่น ภายใต้ Joint Credit Mechanism Program ระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลมองโกเลีย
พื้นที่ของโครงการประมาณ 4 แสนตารางเมตร ซึ่งเป็นการเช่าที่ดินที่เป็นที่ตั้งโครงการจากหน่วยงานรัฐบาล มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ National Dispatching Center ซึ่งเป็นหน่วยงานของภาครรัฐของประเทศมองโกเลีย ที่มีหน้าที่โดยตรงในการรับซื้อไฟฟ้าจากภาคเอกชน โดยโครงสร้างค่าไฟฟ้าแบบ Feed In Tariff (FIT) เท่ากับ 0.162 เหรียญสหรัฐ/หน่วย
เงินทุนในระหว่างการก่อสร้างโครงการจะใช้เงินทุนจากผู้ร่วมลงทุนเป็นหลัก โดยอาจเป็นทั้งในรูปเงินเพิ่มทุน หรือเงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น โดยบริษัทมีแผนที่จะจัดหาเงินกู้สำหรับโครงการจากสถาบันการเงิน
การเข้าร่วมลงทุนจะเป็นการทยอยซื้อหุ้นเพิ่มทุน หรือให้เงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น กับบริษัทที่เป็นเจ้าของโครงการในช่วงระยะเวลาก่อสร้าง ดังนั้น บริษัทมีแผนจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน หรือเงินทุนหมนุเวียนภายใน หรือเงินที่ได้จากการขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) หรือเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินในการเข้าลงทุนครั้งนี้