OCEAN จะเพิ่มทุนให้"ชัชชญา ไตรตระกูลชัย"ที่ 0.80 บ./หุ้น เข้าถือหุ้น 40% แต่ขอผ่อนผันทำเทนเดอร์ฯ ,หันรุกธุรกิจไบโอดีเซล

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 13, 2018 08:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมโอเชี่ยน คอมเมิรช (OCEAN) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) อนุมัติลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้นำออกจำหน่าย หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 301.61 ล้านบาท จากเดิมที่ 180.97 ล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุน 482.57 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.25 บาท เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) คือนางชัชชญา ไตรตระกูลชัย ในราคาหุ้นละ 0.80 บาท คิดเป็นมูลค่า 386.05 ล้านบาท โดยปัจจุบันนางชัชชญา ไม่มีความสัมพันธ์กับบริษัท ผู้บริหาร ผู้มีอำนาจควบคุม หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท แต่ภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้นางชัชชญา จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัท 40%

ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทได้ตรวจสอบประวัติและข้อมูลของผู้ลงทุนแล้ว มีความเห็นว่าผู้ลงทุนมีเงินทุนพอสำหรับการเข้าจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน และมีฐานะทางการเงินมั่นคง ดังนั้น การเพิ่มทุนในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงิน โครงสร้างเงินทุน ศักยภาพในการสร้างรายได้ในอนาคตและฐานะทางการเงินที่ดีขึ้น โดยที่บริษัทไม่ต้องเพิ่มภาระหนี้สินจากการกู้ยืมเงินและสามารถลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของบริษัทได้

ประกอบกับบริษัทเล็งเห็นโอกาสในการเติบโตของอุตสาหกรรมผลิตไบโอดีเซลซึ่งอยู่ในภาวะขยายตัว และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่สะอาดผลิตจากพืชเมื่อเปรียบเทียบกับน้ำมันดีเซล ช่วยลดปริมาณการซื้อน้ำมันดิบจากประเทศซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพทางด้านพลังงานของประเทศ และบริษัทมีแผนที่จะขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้คลอบคลุมธุรกิจผลิตไบโอดีเซล

ดังนั้น นอกจากบริษัทจะได้ประโยชน์จากการมีแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมจากผู้ลงทุนแล้ว บริษัทยังจะสามารถนำความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ของผู้ลงทุนในธุรกิจผลิตและการซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมผลิตสบู่ และอุตสาหกรรมผลิตไบโอดีเซล มาสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจผลิตเชื้อเพลิงไบโอดีเซลของบริษัทได้อีกด้วย

พร้อมกันนี้ยังมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 เพื่อพิจารณาอนุมัติการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการโดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น (Whitewash) โดยผู้ลงทุนไม่มีแผนที่จะเพิกถอนหุ้นของกิจการออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกทั้งยังไม่มีนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงแผนการบริหารจัดการ โครงสร้างองค์กร และโครงสร้างทางการเงินของกิจการอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจค้าปลีกในภาพรวมมีการชะลอตัว เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและการจับจ่ายใช้สอยในสินค้าอุปโภคบริโภคที่ลดลงอย่างต่อเนื่องส่งผลให้รายได้รวมและกำไรสุทธิของบริษัทปรับตัวลงลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงได้ดำเนินการศึกษาแนวทางและโอกาสการลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อเป็นช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มเติม ซึ่งบริษัทได้ให้ความสนใจในธุรกิจพลังงานทางเลือก (Alternative Energy) มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้สร้างโซลาร์รูฟท็อปที่โรงงาน จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ตลอดจนได้จัดตั้งบริษัท กรีนโอเชี่ยน วอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 100% เพื่อประกอบธุรกิจสาธารณูปโภค

บริษัทจึงได้มีการศึกษาการขยายขอบเขตการดำเนินธุรกิจให้คลอบคลุมธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตไบโอดีเซล แต่เนื่องจากเป็นส่วนงานที่บริษัทไม่ได้มีความเชี่ยวชาญมาแต่เดิม บริษัทจึงต้องการนักลงทุนที่เป็นผู้มีประสบการณ์ในด้านอุตสาหกรรมดังกล่าว และเห็นว่าผู้ลงทุนเป็นนักลงทุนที่จะนำพาความรู้ความสามารถ รวมถึงประสบการณ์ด้านธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจน้ำมันปาล์ม มาส่งเสริมศักยภาพในการขยายธุรกิจของบริษัท

OCEAN ระบุอีกว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของบริษัท โดยเพิ่มเติมวัตถุประสงค์จากเดิมจำนวน 27 ข้อ เป็น 29 ข้อ โดยให้ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์ม และประกอบกิจโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม หีบน้ำมันปาล์ม น้ำมันจากพืชทุกชนิด

นอกจากนี้บริษัทยังชี้แจงว่าด้วย กรณีที่ราคาหุ้นของเมื่อวานนี้ มีการซื้อขายในจำนวนและราคาค่อนข้างสูงนั้น บริษัทและผู้ที่เกี่ยวข้องไม่มีส่วนรู้เห็นกับปริมาณการซื้อ และราคาดังกล่าว โดยกรรมการ และผู้บริหารของบริษัทไม่มีการซื้อขายหุ้นของบริษัท ถึงแม้ว่าเมื่อวานนี้ บริษัทจะมีการจัดประชุมคณะกรรมการเมื่อเวลา 15.00 น. เพื่อพิจารณาอนุมัติแผนขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ , พิจารณาอนุมัติจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อเสนอขายให้แก่ PP ก็ตาม

อนึ่ง ราคาหุ้น OCEAN ปิดเมื่อวานนี้อยู่ที่ 1.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.19% หรือ 21.84%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ