(เพิ่มเติม) บอร์ด TMI อนุมัติเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ 1.4 MW หวังจะรับรู้รายได้ Q3/61 พร้อมรุกประมูลงานหลอดไฟเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 18, 2018 14:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ธีระมงคล อุตสาหกรรม (TMI) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา อนุมัติให้บริษัท ธีระมงคล กรีน เอนเนอร์ยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าเข้าซื้อหุ้นเพื่อลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 100 กับบริษัท กรีน เซฟวิ่ง เอนเนอร์ยี่ ไทยแลนด์ จำกัด ซึ่งดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ ขนาด 1.4 เมกะวัตต์ (MW) ในจ.สุราษฎร์ธานี มูลค่าราว 85 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทจะเข้าทำการตรวจสอบมูลค่าสินทรัพย์ (Due Diligence) สำหรับเข้าดำเนินการศึกษาโครงการให้แล้วเสร็จ โดยโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าว ดำเนินธุรกิจผลิตและส่งไฟฟ้า เพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่เดือนพ.ค.58 จนถึงปัจจุบัน โดยบริษัทได้จ่ายเงินงวดแรก จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อจะเข้าทำ Due Diligence ภายในระยะเวลา 45 วัน หรือภายในเดือน ก.ค.61 ซึ่งหากพบว่าไม่สมเหตุสมผลในการลงทุนก็จะไม่มีการลงทุนใด ๆ ในหุ้นบริษัท กรีน เซฟวิ่ง เอนเนอร์ยี่ ไทยแลนด์ จำกัด และทางผู้ถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวก็จะคืนเงินมัดจำให้กับบริษัทภายในเดือนส.ค.61 แต่หากพิจารณาว่ามีความสมเหตุสมผล และคุ้มค่าบริษัทจะพิจารณาเข้าลงทุนในจำนวนร้อยละ 100

การจะเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ นับเป็นการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจพลังงาน รองรับการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงในอนาคต สำหรับแหล่งเงินลงทุนครั้งนี้ จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ ของ TMI กล่าวว่า บริษัทคาดจะมีการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพภายในไตรมาส 3/61 ส่งผลให้จะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 61 เติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 61 รวมทั้งบริษัทยังมองหาการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมการเติบโตในอนาคต

นอกจากนี้ ด้านธุรกิจหลอดไฟในปีนี้บริษัทยังวางแผนเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ประมาณ 10 รายการ ภายใต้แบรนด์ "GATA" เพื่อรองรับความต้องการและตอบโจทย์ลูกค้า ประกอบกับยังวางแผนจะเข้าประมูลงานภาครัฐและเอกชนในส่วนของหลอดไฟ ประมาณ 5-6 โครงการ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปี 61 และบริษัทยังเตรียมเข้าไปรับงานใน CLMV ได้แก่ กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม เพื่อขยายตลาดหลอดไฟให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ

"การเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าครั้งนี้ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี และเป็นการเริ่มต้นในธุรกิจพลังงานทดแของบริษัท โดยเราพร้อมจะเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เพราะยังมีอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่ระดับ 0.60 เท่า ซึ่งถือว่าน้อย ทำให้เรายังมีความสามารถในการกู้เงินจากสถาบันทางการเงินได้อีก โดยในขณะนี้บริษัทยังมองหาการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพอย่างต่อเนื่อง เพราะยังมีแหล่งเงินทุนเพียงพอต่อการลงทุนหากมีดีลการลงทุนเกิดขึ้นในอนาคต"นายธีระชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ