JASIF จะใช้เงินเพิ่มทุน-เงินกู้ยืม เพื่อลงทุนทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเพิ่มเติมจาก TTTBB ราคาไม่เกิน 3.8 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 10, 2019 09:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.บัวหลวง ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) ได้พิจารณาเกี่ยวกับการลงทุนของกองทุนในทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานประเภททรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง (Optical Fiber Cable) เพิ่มเติมครั้งที่ 1 จำนวนไม่เกิน 700,000 คอร์กิโลเมตร

การลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มนี้ จะเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์โดยการซื้อทรัพย์สินส่วนเพิ่มจากบมจ.ทริปเปิลที บรอดแบนด์ (TTTBB) โดยกำหนดราคาซื้อขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มที่ราคาไม่เกิน 38,000 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินส่วนเพิ่ม) โดยกองทุนพิจารณาราคาดังกล่าวประกอบกับราคาประเมินของผู้ประเมินราคาอิสระ 2 ราย ได้แก่ บริษัท อเมริกัน แอ๊พเพรซัล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ซี.ไอ.ที.แอพเพรซัล จำกัด ทั้งนี้ มูลค่าสุดท้ายที่กองทุนจะเข้าซื้อเพื่อลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มจะไม่สูงกว่าราคาประเมินที่ต่ำที่สุดของผู้ประเมินราคาอิสระ 2 รายดังกล่าว

โดยในเบื้องต้นคาดว่าแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในการลงทุนทรัพย์สินส่วนเพิ่มครั้ง นี้จะมาจากการเพิ่มเงินทุนจดทะเบียนของกองทุน ในจำนวนรวมไม่เกิน 24,629 ล้านบาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 54,183.8 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 9.8516 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนจำนวนไม่เกิน 78,812.8 ล้านบาท และการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในประเทศไทยเป็นจำนวนไม่เกิน 15,500 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนส่วนหนึ่งสำหรับซื้อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนเพิ่ม

นอกจากนั้นกองทุนอาจทำการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในประเทศไทยอีกเป็นจำนวน ไม่เกิน 2,660 ล้านบาท เพื่อใช้ในการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มจากการซื้อกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนเพิ่ม รวมเป็นจำนวนเงินกู้ทั้งสิ้นไม่เกิน 18,160 ล้านบาท

โดยเมื่อกองทุนได้ซื้อทรัพย์สินส่วนเพิ่มดังกล่าวข้างต้นแล้ว กองทุนจะนำทรัพย์สินส่วนเพิ่มจำนวนร้อยละ 80 ของทรัพย์สินส่วนเพิ่มทั้งหมดที่ได้รับมอบจาก TTTBB ซึ่งรวมกันไม่เกิน 560,000 คอร์กิโลเมตร ออกให้ TTTBB เช่าในอัตราค่าเช่าเริ่มต้นที่ 433.21 บาท ต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) (ภายใต้สมมติฐานว่าการเข้าลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มจะแล้วเสร็จภายในปี 2562)

ทั้งนี้ สำหรับทรัพย์สินส่วนเพิ่มจำนวนร้อยละ 20 ของทรัพย์สินส่วนเพิ่มทั้งหมดที่ได้รับมอบจาก TTTBB ซึ่งรวมกันไม่เกิน 140,000 คอร์กิโลเมตรนั้น จะนำออกให้ TTTBB เช่า ในระหว่างที่กองทุนไม่ได้ให้บุคคลอื่นเช่า เพื่อเป็นการประกันรายได้ค่าเช่าให้แก่กองทุน ในอัตราค่าเช่าเริ่มต้นที่ 764.48 บาท ต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

อย่างไรก็ดี การเข้าลงทุนของกองทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มดังกล่าวข้างต้น และข้อตกลงสุดท้ายที่กองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มและสัญญาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มและการจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินดังกล่าว ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองสัญญาระหว่างกองทุนกับคู่สัญญาแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้อง (เช่น บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) , TTTBB และสถาบันการเงินผู้ให้กู้ เป็นต้น) รวมถึงกรณีที่คู่สัญญาแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องดังกล่าวอาจต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น และ/หรือหน่วยงานกากับดูแลที่เกี่ยวข้องก่อน และขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบสถานะทางกฎหมายและการตรวจสอบทางเทคนิคของทรัพย์สิน โดยในปัจจุบันกองทุนยังอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองกับคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องและยังไม่ได้เข้าทำข้อตกลงใด ๆ

ทั้งนี้ การเข้าลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มดังกล่าวจะทำให้ประมาณการเงินปันส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยลงทุนของกองทุน (Cash Distribution Per Unit หรือ DPU) ภายหลังการเข้าลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่ม ไม่ต่ำไปกว่าประมาณการเงินปันส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยลงทุนของกองทุนในกรณีที่กองทุนมิได้เข้าลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่ม ที่จัดทำโดยบริษัทจัดการ และตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาตสำหรับช่วงเวลาประมาณการสำหรับงวด 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และสำหรับงวด 12 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งบริษัทจัดการจะได้นำเสนอต่อผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป

นอกจากนี้ เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนของกองทุน เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนส่วนหนึ่งสำหรับรองรับการเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินส่วนเพิ่มของกองทุน บริษัทจัดการเห็นควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนพิจารณาอนุมัติการเพิ่มเงินทุนจดทะเบียนของกองทุน ในจำนวนรวมไม่เกิน 24,629 ล้านบาท จากเดิมทุนจดทะเบียน 54,183.8 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หน่วยละ 9.8516 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนจำนวนไม่เกิน 78,812.8 ล้านบาท โดยการออกและเสนอขายหน่วยลงทุนใหม่ในจำนวนไม่เกิน 2,500 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนตามสัดส่วนการถือหน่วยลงทุน

เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนพิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาเกี่ยวกับทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุนลงทุนอยู่ในปัจจุบันเพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับเงื่อนไขการเข้าลงทุนในทรัพย์สินส่วนเพิ่มดังกล่าว บริษัทจัดการเห็นควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนพิจารณาอนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาเกี่ยวกับทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานที่กองทุนลงทุนอยู่ในปัจจุบันและเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกองทุนและผู้ถือหน่วยลงทุน

เช่น (ก) การขยายอายุของสัญญาเช่าหลักที่กองทุนเข้าทำกับ TTTBB เพื่อให้ TTTBB เช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนาแสงในจำนวนร้อยละ 80 ของจำนวนทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงทั้งหมดที่กองทุนลงทุนอยู่ในปัจจุบัน จากเดิมซึ่งอายุสัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2569 เป็นสิ้นสุดในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2575 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันสิ้นสุดอายุของใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมประเภทที่สามของ TTTBB

(ข) การให้สิทธิกองทุนในการต่ออายุสัญญาเช่าหลัก (สำหรับทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง (Optical Fiber Cable) ส่วนที่กองทุนลงทุนอยู่ในปัจจุบัน และส่วนที่กองทุนจะลงทุนเพิ่มเติม ครั้งที่ 1) ไปอีก 10 ปี นับจากวันสิ้นสุดอายุของสัญญาเช่าหลัก (ซึ่งคือวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2575 ตามข้อ (ก)) เมื่อรายได้จากการให้บริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต (FTTX และ xDSL) ของ TTTBB สาหรับปี 2573 ไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท และ TTTBB ได้รับการต่ออายุใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องรวมถึงความเห็นชอบต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการต่ออายุสัญญาเช่าหลัก โดยอัตราค่าเช่า ณ วันที่ต่อสัญญาเช่าหลักออกไปอีก 10 ปีข้างต้นจะเท่ากับ 433.21 บาทต่อคอร์กิโลเมตรต่อเดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งเท่ากับอัตราค่าเช่าภายใต้สัญญาเช่าหลักในปี 2562 โดยจะมีการปรับขึ้นอัตราค่าเช่าดังกล่าวข้างต้น ทุกวันที่ 1 มกราคม ของทุกปีตามอัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี แต่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 0 ต่อปี และ (ค) แก้ไขข้อตกลงเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการนำเส้นใยแก้วนำแสงเดิมที่นำส่งให้กองทุนแล้วในการลงทุนครั้งแรกลงใต้ดิน (Relocation expenses) และค่าเช่าท่อร้อยสายใต้ดิน (Sub-duct Rental)

ทั้งนี้ บริษัทจัดการเห็นควรให้มีการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งที่ 1/2562 ในวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2562 บริษัทจัดการจึงกำหนดให้วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีสิทธิในการเข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งที่ 1/2562 (Record Date)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ