(เพิ่มเติม) PLANB รุกเทคฯ "สตาร์ค มัลติมีเดีย"ลุยขยายจอสื่อดิจิทัล,ครึ่งปีหลังเริ่มรับรู้ฯงาน"โอลิมปิค โตเกียว 2020"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 15, 2019 11:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพินิจสรณ์ ลือชัยขจรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) อนุมัติให้บริษัท มาสเตอร์ สแตนดาร์ด ดิสเพลย์ จำกัด (เอ็มเอสดี) บริษัทย่อย เข้าลงทุน 75% ในบริษัท สตาร์ค มัลติมีเดีย จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยประเภทดิจิทัล โดยบริษัทจะเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 180,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 100 บาท ซึ่งเป็นราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ คิดเป็นเงินลงทุนทั้งสิ้น 18 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากกระแสเงินสดภายในของบริษัท โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/62

ปัจจุบัน สตาร์ค มัลติมีเดีย ได้รับสิทธิการเช่าพื้นที่ติดตั้งสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยประเภทดิจิทัลในทำเลที่มีศักยภาพทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 160 จอ ซึ่งการเข้าลงทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพของบริษัทในการขยายธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยในทำเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูงสุด

"การควบรวมธุรกิจในครั้งนี้เป็นไปตามแผนธุรกิจที่ต้องการจะขยายความหลากหลายของสื่อโฆษณาที่ให้บริการ และหลังจากการควบรวมธุรกิจจะส่งผลให้แพลนบีมีสื่อโฆษณาดิจิตอลนอกที่อยู่อาศัยทั้งสิ้น 471จอภาพ"นายพินิจสรณ์ กล่าว

นอกจากนี้ คณะกรรมการยังอนุมัติให้บริษัท ลงทุนจัดตั้งบริษัท แพลน บี ซีเอส จำกัด บริษัทย่อยแห่งใหม่ เพื่อขยายธุรกิจสื่อโฆษณาภายนอกที่อยู่อาศัยประเภทดิจิทัล โดยบริษัทจะเข้าถือหุ้นจำนวน 80,000 หุ้น หรือคิดเป็น 80% โดยจะดำเนินการจดจัดตั้งบริษัทกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3/62

นายพินิจสรณ์ กล่าวอีกว่า ในครึ่งแรกของปี 62 ผลประกอบการของบริษัทเติบโตสูงกว่าอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาส 2/62 บริษัทมีรายได้ 1,144 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.4% กำไรสุทธิ 180.3 ล้านบาท เติบโต 18.2% เป็นผลจากการขยายธุรกิจสื่อโฆษณาด้วยงบลงทุนกว่า 800 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา และมีสื่อโฆษณาพร้อมให้บริการ (Media Capacity) เติบโต 13.8% ในขณะที่อัตราการใช้สื่อโฆษณาก็ปรับตัวจาก 66% เป็น 75% ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการพัฒนาธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม (Engagement Marketing) ผ่านคอนเทนท์ที่มีคุณภาพทั้ง 3 ประเภทคือ กีฬา ดนตรี และอีสปอร์ต จากการขายแพคเกจสื่อโฆษณาฯร่วมกับ Engagement marketing ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สื่อโฆษณาฯ ของบริษัทสามารถเข้าถึงเม็ดเงินโฆษณาได้ดีกว่าสื่อโฆษณาประเภทอื่นๆ

ทั้งนี้ ในครึ่งปีหลังแพลนบียังคงมุ่งพัฒนาธุรกิจ Engagement Marketing ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย โดยจะเพิ่มความหลากหลายของคอนเทนท์ประเภทกีฬา ด้วยการเข้าบริหารสิทธิทางการตลาดของกีฬาโอลิมปิค โตเกียว 2020 ซึ่งประกอบไปด้วย 1. สิทธิในการถ่ายทอดสด 2.สิทธิในการบริหารผู้สนับสนุน (Sponsorship) และ 3. สิทธิในการบริหารคอนเทนต์

นายพินิจสรณ์ กล่าวว่า PLANB มีแผนธุรกิจในการส่งเสริมสปอร์ตอีโคซิสเต็มในประเทศไทยจากความร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชน และร่วมสร้างกิจกรรมส่งแรงใจให้นักกีฬาไทยก่อนการแข่งขันอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 ปีล่วงหน้า ซึ่งรายได้จากการบริหารสิทธิทางการตลาดของกีฬาโอลิมปิค โตเกียว 2020 จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/62 เป็นต้นไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ