"อิ๊กดราซิล"ลุยเข้าตลาดหุ้นสานฝันสตาร์ทอัพ"แอนิเมชัน"ก้าวขึ้นระดับเวิลด์คลาสชูเป้าใหญ่"ดิสนีย์ เมืองไทย"

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 23, 2019 11:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักพัฒนาด้านดิจิทัลคอนเทนต์และด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิก (CG) ไทยหลายรายได้รับการการันตีฝีมือทัดเทียมกับผู้เล่นในระดับโลก บมจ.อิ๊กดราซิล กรุ๊ป (YGG) เป็นหนึ่งในบริษัทสัญชาติไทยที่มีผลงานด้านการออกแบบแอนิเมชันในภาพยนตร์และเกม สร้างกระแสความนิยมให้กับผู้ชมและผู้เล่นเกมในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

ผลงานภาพยนตร์แอนิเมชันต่างประเทศที่บริษัทมีส่วนร่วม เช่น Nezha: The devil is coming 2019 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ Animation 3D ของจีน ส่วนงานภาพยนตร์ในประเทศที่ได้รับความนิยม เช่น เคว้ง (The Stranded) ซีรีส์แนวดราม่า ไซไฟ แฟนตาซี, โฮมสเตย์ (Homestay) ภาพยนตร์ไทยแนวดราม่า แฟนตาซี ระทึกขวัญ และงานผลิตและรับจ้างผลิตเกม เช่น โฮมสวีตโฮม (Home Sweetm Home) เกมแนวผจญภัยสยองขวัญ ซึ่งปัจจุบันก็มีการวางจำหน่ายแล้ว 2 ภาค และไฟนอลแฟนตาซี (Final Fantasy ) เป็นเกมชุดแฟนตาซี แนวเล่นตามบทบาท

*ขาย IPO ปลดล็อกเงินทุนขยายงานต่างประเทศ

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร YGG เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทกำลังเดินหน้าเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เพื่อนำเงินมาลงทุนขยายธุรกิจยกระดับการแข่งขันในเวทีโลก โดบเชื่อมั่นว่าหุ้น YGG จะเข้าข่ายคุณสมบัติหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock มีทั้งการเติบโตสูงและจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอให้กับผู้ลงทุน น่าจะทำให้นักลงทุนมีความสนใจ ภายใต้แผนงานที่บริษัทตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้รวมอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 15-20%

YGG เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 45 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท และมีทุนที่ชำระแล้ว 67.5 ล้านบาท คาดว่ากระบวนการนำเสนอขายหุ้น IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาด mai จะมีความชัดเจนภายในปีนี้ วัตถุประสงค์ของการระดมทุนเพื่อนำเงินไปสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ และจัดตั้งบริษัทย่อยในต่างประเทศ เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการลูกค้าในภูมิภาคเอเชียและสหรัฐอเมริกา

"แน่นอนว่าเราจะไม่ยอมให้อยู่แค่ตรงนี้ เราอยากจะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ให้ไปเติบโตในต่างประเทศให้ได้ อุปสรรคของเราในตอนนี้คือเรื่องของเงินทุน ซึ่งภายหลังที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว จะทำให้ไม่มีข้อจำกัดในด้านของทุนอีก สามารถขยายธุรกิจในเวทีระดับโลกได้ เนื่องจากผลงานบริษัทที่ผ่านมาเข้าไปรับงานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะงานในต่างประเทศ ซึ่งในอนาคตมีความสนใจเข้าไปจัดตั้งสำนักงานและหาตลาดเพิ่มในประเทศแคนาดา เพื่อครอบคลุมธุรกิจงานในต่างประเทศ เป็นหนึ่งในตัวแปรผลักดันผลประกอบการเติบโตในระยะถัดไป"

*ชูเป้าใหญ่ยกระดับสู่ "ดิสนีย์ เมืองไทย"

นายธนัช กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็น"ดิสนีย์ เมืองไทย"เพราะเล็งเห็นปัจจัยแวดล้อมที่จะผลักดันเป็นที่รู้จักในตลาดโลก เช่น ตลาดแอนิเมชันที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจอยู่ใน "S Cure" ที่ประเทศไทยกำลังให้การส่งเสริมเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ ,ด้านธุรกิจพัฒนาดิจิทัลคอนเทนต์ที่มีแพลตฟอร์ม Netfix, Disney, Amazon รองรับและมีความต้องการคอนเทนท์ที่ดีตลอดเวลา ,ส่วนตลาดเกมมีมูลค่าตลาดค่อนข้างใหญ่ ในอนาคตจะได้อานิสงส์จากเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง ตอบโจทย์และเข้าถึงผู้บริโภคทั่วทุกมุมโลกได้ง่ายขึ้น

"ถ้าเปรียบเทียบธุรกิจของบริษัทแบบง่ายๆคือเป็นผู้ให้บริการ แต่มากกว่าการให้บริการคือความ Creative มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ยิ่งกว่านั้นบริษัทที่รับงานใหญ่ในต่างประเทศ จำเป็นอย่างมากเรื่องเครดิต ซึ่งทาง "อิ๊กดราซิล กรุ๊ป" พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วมากกว่า 10 ปี ทั้งเรื่องของเครดิตและงานที่ไม่เคยผิดพลาด ทำให้ผู้จ้างงานในต่างประเทศมีความมั่นใจ สะท้อนได้จากปัจจุบันบริษัทรับงานในต่างประเทศมีจำนวนมากกว่างานในประเทศและมีอัตราการทำกำไรที่ดีอีกด้วย"

นายธนัช กล่าวว่า บริษัทจะเดินหน้าผลักดันธุรกิจหลักทั้ง 3 ประเภทให้มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ประกอบด้วย งานโฆษณาและภาพยนตร์ (Visual Effects) ทำในเรื่องของการออกแบบ งานตัดแต่งภาพเคลื่อนไหว และเทคนิคพิเศษในงานโฆษณา งานภาพในภาพยนตร์ และซีรีส์ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 25% ของรายได้รวม,

งานภาพยนตร์แอนิเมชัน โดยให้บริการในการจัดทำงานภาพยนตร์แอนิเมชัน ที่ครอบคลุมทั้งงานผลิตแอนิเมชัน (Production Process) งานประกอบและตกแต่งภาพ (Post Production Process / Compositing Process) โดยมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 50% ของรายได้รวม

และงานผลิตและรับจ้างผลิตเกม (Game & Production) ในระบบต่างๆ เช่น เกมคอมพิวเตอร์ (Personal Computer) เกมมือถือ รวมถึงเกมในระบบสภาพแวดล้อมเสมือนจริง (Virtual reality : VR) เป็นต้น มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 25% ของรายได้รวม

*ชูจุดเด่น กองทรัสต์ SME ร่วมทุนตลท.-ออมสินถือหุ้นยาวถึงปี 68

โครงสร้างผู้ถือหุ้นในปัจจุบัน ประกอบกับด้วย นายธนัช จุวิวัฒน์ ถือหุ้น จำนวน 98,277,400 หุ้น คิดเป็น 73% และภายหลังขายหุ้น IPO จะลดลงเหลือ 55%, นายศรุต ทับลอย ถือหุ้นจำนวน 24,570,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18% และหลังขายหุ้น IPO จะเหลือสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 14%

ขณะที่จุดเด่นของบริษัท คือ การมีกองทรัสต์ เอสเอ็มอี ไพรเวท อิควิตี้ ทรัสต์ ฟันด์ โดยธนาคารออมสิน กองที่ 1 ซึ่งเป็นกองทรัสต์ฯที่ถือหุ้นร่วมกันระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และธนาคารออมสิน เข้ามาถือหุ้นในสัดส่วน 9% โดยภายหลังขายหุ้น IPO จะลดลงเหลือ 7% ซึ่งกองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพเติบโตสูงในอนาคต มีนโยบายถือหุ้นยาวไปถึงปี 68

"กองทรัสต์ของตลาดหลักทรัพย์และออมสิน เข้ามาลงทุนตั้งแต่ปี 60 ด้วยเงินลงทุน 50 ล้านบาท มีกำหนดถือครอง 8 ปีหรือจนถึงปี 2568 มีนโยบายลงทุนในกิจการที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เพราะในอดีตเราเคยเป็นสตาร์ทอัพมาก่อน"นายธนัช กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 9 เดือนของปี 62 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 147.68 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวม 103.90 ล้านบาท กำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนอยู่ที่ 41.31 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 2562 สินทรัพย์รวม 212.08 ล้านบาท หนี้สินรวม 50.52 ล้านบาท

กำไรสุทธิของบริษัทปี 59-61 อยู่ที่ 28.14 ล้านบาท 14.02 ล้านบาท และ 21.09 ล้านบาท ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิปรับลดลงในปี 60 เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจากการเพิ่มจำนวนพนักงานในฝ่าย Animation และ Game เพื่อเตรียมรองรับงานในปี 61 ซึ่งโดยปกติในช่วงแรกค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้นจะสูงกว่ารายได้ที่รับรู้เพิ่มในงวดในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม ในปี 61 กำไรสุทธิปรับเพิ่มขึ้นจากปี 60 เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการทั้งส่วนงาน Animation และงาน Game แต่กำไรสุทธิยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปี 59 เนื่องจากในปี 61 บริษัทมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 20.85 ล้านบาท

https://youtu.be/iV-1yDvZl0g


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ