BCPG จัดงบราว 3.75 พันลบ. ลงทุนโรงไฟฟ้า Nam San 3B ในลาว ที่ COD แล้ว พร้อมเตรียมส่งไฟขายไปเวียดนามในปี 65

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 11, 2020 09:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

BCPG จัดงบราว 3.75 พันลบ. ลงทุนโรงไฟฟ้า Nam San 3B ในลาว ที่ COD แล้ว พร้อมเตรียมส่งไฟขายไปเวียดนามในปี 65

บมจ.บีซีพีจี (BCPG) เตรียมใช้เงินลงทุนราว 3.75 พันล้านบาท เพื่อลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3B ในลาว ขนาด 45 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว พร้อมก่อสร้างระบบส่ง เพื่อเตรียมส่งไฟฟ้าไปขายยังเวียดนามตามสัญญาระยะยาว ภายในไตรมาส 3/65 ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นที่ดีและมีความสม่ำเสมอขึ้น

BCPG แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 20 ม.ค.63 อนุมัติให้บริษัท บีซีพีจี อินโดไชน่า จำกัด (BIC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน Nam San 3B Power Sole Co., Ltd. (Nam San 3B) เพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ในลาว และการลงทุนก่อสร้างและดำเนินกิจการระบบสายส่งกระแสไฟฟ้าและสถานีจ่ายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม โดยเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา BIC ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นเพื่อเข้าลงทุนทั้ง 100% ในโครงการดังกล่าวแล้ว และคาดหมายว่าจะได้รับโอนหุ้น Nam San 3B จาก Phongsubthavy Roads and Bridges Construction and Irrigation Sole Co., Ltd. (PSG) ซึ่งเป็นผู้ขาย ภายในเดือนก.พ.63 โดยมีมูลค่าลงทุนไม่เกิน 113.18 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3.45 พันล้านบาท

BCPG จัดงบราว 3.75 พันลบ. ลงทุนโรงไฟฟ้า Nam San 3B ในลาว ที่ COD แล้ว พร้อมเตรียมส่งไฟขายไปเวียดนามในปี 65

นอกจากนี้ยังอนุมัติการลงทุนก่อสร้างและดำเนินกิจการระบบสายส่งกระแสไฟฟ้าและสถานีจ่ายไฟฟ้าย่อย (Transmission Line & Substation) โดย BIC หรือบริษัทย่อยของบริษัทร่วมกับผู้ขาย เพื่อก่อสร้างและดำเนินกิจการระบบส่งไฟฟ้าและสถานีจ่ายไฟฟ้าจากโครงการ Nam San 3A และ Nam San 3B ไปยังสถานีรับไฟฟ้าของ Vietnam Electricity (EVN) ที่ชายแดนลาว-เวียดนาม (ระบบสายส่งกระแสไฟฟ้า) มีระยะทางรวม 79 กิโลเมตร โดย BIC จะเข้าลงทุนในโครงการนี้ร่วมกับผู้ขาย วงเงินลงทุนรวมไม่เกิน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 304.6 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเข้าลงทุนภายในปี 63

สำหรับแหล่งเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจาก กระแสเงินสดภายในของบริษัท และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน โดยการลงทุนครั้งนี้ เป็นการเพิ่มความสมดุลของความหลากหลายด้านประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยให้ผลประกอบการของบริษัทในอนาคตมีความมั่นคงมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นที่ดีและมีความสม่ำเสมอขึ้น

Nam San 3B เป็นผู้ได้รับสัมปทานในรูปแบบ Build-Operate-Transfer (BOT) ในการพัฒนาและดำเนินโครงการ โรงไฟฟ้า และเป็นผู้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ Electricite du Laos (EDL) ระยะเวลาทั้งสิ้น 27 ปี นับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.58 ซึ่งเป็นวันเริ่ม COD กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งตามสัญญา 45 เมกะวัตต์ ปัจจุบันโครงการดำเนินการก่อสร้างเสร็จสิ้นและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว

ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ม.ค.63 Nam San 3B ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ EVN เพื่อขายไฟฟ้าให้กับ EVN ที่เวียดนาม แทนการขายไฟฟ้าให้กับ EDL โดย EDL มีหนังสือยินยอมให้ Nam San 3B ขายไฟฟ้าให้กับ EVN และยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ EDL เมื่อ Nam San 3B ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ขายไฟฟ้าให้กับ EVN แล้ว ซึ่งอยู่ภายในไตรมาส 3/65 มีอายุสัญญา 25 ปี กำลังการผลิตตามสัญญา 45 เมกะวัตต์ อัตราค่าไฟฟ้า 0.0732 เหรียญสหรัฐ/หน่วย สำหรับ 90% ของปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ต่อปี และ 0.0361 เหรียญสหรัฐ/หน่วย สำหรับไฟฟ้าส่วนที่เหลือจากการรับซื้อไฟฟ้า

นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ BCPG กล่าวว่า การเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Nam San 3B ในเมืองเชียงขวาง ของลาว ซึ่งนับเป็นแห่งที่ 2 ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำในลาวเพิ่มเป็น 114 เมกะวัตต์ และสามารถรับรู้รายได้ทันที พร้อมเข้าลงทุนร่วมกับพันธมิตรก่อสร้างและดำเนินกิจการระบบสายส่งกระแสไฟฟ้าไปยังเวียดนาม โดยโครงการสายส่งที่มีระยะทางประมาณ 79 กิโลเมตร สามารถรองรับการขายไฟที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ได้กว่า 500 เมกะวัตต์

โครงการ Nam San 3B ยังได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ EVN เพื่อขายไฟฟ้าให้กับ EVN แทนการขายไฟฟ้าให้กับ EDL เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 25 ปี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปี 65 เป็นต้นไป ทำให้ Nam San 3B ได้รับการขยายเวลาจำหน่ายไฟฟ้าจากปี 85 เป็นปี 90 เช่นเดียวกับโครงการ Nam San 3A ซึ่งบริษัทได้เข้าลงทุนไปก่อนหน้านี้

ปัจจุบัน PSG อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำอีกกว่า 400 เมกะวัตต์ เพื่อเชื่อมต่อกับสายส่งที่กำลังจะก่อสร้างใหม่ และจำหน่ายไฟฟ้าไปยังเวียดนาม โดยโครงการเหล่านี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเวียดนาม ให้มีสิทธิในการจำหน่ายไฟฟ้าแล้ว ภายใต้กรอบสัญญาระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ

"การลงทุนของบริษัทในครั้งนี้ เป็นเพียงก้าวแรกของบริษัทในการขยายธุรกิจสู่กลุ่มประเทศ CLMV โดยลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ อาทิ ลาว และขายไฟฟ้าให้กับประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น เวียดนาม ซึ่งจะช่วยทำให้รายได้ของบริษัทมีเสถียรภาพมากขึ้น อีกทั้งการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ทั้งในลาว และประเทศใกล้เคียง ที่ต้องการผู้ร่วมทุนที่มีความพร้อมในการลงทุน และประสบการณ์ในการบริหารจัดการธุรกิจที่มีมาตรฐานสากล นับว่าเป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าในกลุ่มประเทศ CLMV ให้สำเร็จตามแผนที่วางไว้"นายบัณฑิต กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ