(เพิ่มเติม1) GULF เผย 2 บริษัทในกลุ่มได้ใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซฯ นำเข้า LNG ป้อนโรงไฟฟ้า SPP-หินกอง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 21, 2020 13:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งว่าบริษัทได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นปริมาณ 3 แสนตัน/ปี โดยบริษัทจะจำหน่ายก๊าซธรรมชาติปริมาณดังกล่าวให้แก่โรงไฟฟ้า SPP จำนวน 19 โครงการของกลุ่มบริษัทเพื่อผลิตไฟฟ้า จำหน่ายแก่กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม

นอกจากนี้บริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (HKH) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทถือหุ้น 49% และบมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ถือหุ้น51% ได้รับอนุมัติใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ จากกกพ.เช่นเดียวกัน โดย HKH จะเป็นผู้จัดหาและนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ปริมาณ 1.4 ล้านตัน/ปี เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง ขนาดกำลังการผลิต 1,400 เมกะวัตต์ (MW) ตั้งอยู่ที่ตำบลหินกอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 67 และ 68

ทั้งนี้ ซึ่งการนำเข้าก๊าซธรรมชาติดังกล่าว จะช่วยทำให้ต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าโดยรวมของโรงไฟฟ้า SPP ในกลุ่มบริษัท และโรงไฟฟ้าหินกองลดต่ำลง ซึ่งจะทำให้ต้นทุนค่าไฟของลูกค้าอุตสาหกรรมของโรงไฟฟ้า SPP รวมถึงค่าไฟฟ้าโดยรวมของประเทศ ลดต่ำลงด้วยเช่นกัน

ด้านแหล่งข่าวจากคณะกรรมการ กกพ. เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการกกพ.เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) อนุมัติให้ 2 บริษัทในกลุ่ม GULF ได้รับใบอนุญาต Shipper สามารถนำเข้า LNG รายใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้มีเพียงบมจ.ปตท. (PTT) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้ได้ใบอนุญาต Shipper เพียง 2 ราย โดยการนำเข้า LNG ดังกล่าวเพื่อรองรับการใช้ผลิตไฟฟ้า โดยกลุ่ม GULF ได้ยื่นเสนอขอเป็น Shipper ในนามของบริษัทร่วมทุน 1 บริษัท และในนามของ GULF อีก 1 บริษัท เนื่องจากมีโรงไฟฟ้าที่พร้อมรองรับการนำเข้า LNG

ส่วนความกังวลเรื่องปัญหาที่อาจจะไม่ได้รับอนุญาตจองใช้คลังจัดเก็บและแปรสภาพ LNG จากของเหลวมาเป็นก๊าซธรรมชาติ รวมถึงการจองใช้ท่อส่งก๊าซธรรมชาติจา PTT ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอยู่ในปัจจุบันนั้น ก็ต้องเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องไปเจรจากัน แต่หากติดปัญหาอุปสรรคสามารถส่งข้อร้องเรียนมายังสำนักงานกกพ.เพื่อให้ช่วยบริหารจัดการได้

สำหรับกรณีที่บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ที่ยื่นขอใบอนุญาต Shipper แต่ไม่ได้รับการอนุมัติก่อนหน้านี้ ก็มีการพิจารณาเมื่อวานนี้ด้วยเช่นกัน โดยให้ BGRIM กลับไปแก้ไขข้อมูลรายละเอียดอีกครั้งก่อนจะนำเข้าสู่การพิจารณาใหม่

หลังจากคณะกรรมการ กกพ.อนุมัติใบอนุญาต Shipper แก่ 2 บริษัทในกลุ่ม GULF ครั้งนี้ ก็ต้องรอการรับรองการรายงานการประชุม ก่อนที่จะแจ้งให้กับผู้ได้รับใบอนุญาตรับทราบต่อไป

"เมื่อวานนี้มีการพิจารณาผู้ยื่นข้อเสนอเข้ามาทั้งหมด คนที่เสนอข้อมูลมาถูกต้องครบถ้วนเราก็ให้ผ่านหมด ที่ยังไม่ถูกต้องก็ให้กลับไปแก้ไข ถ้ามีโรงไฟฟ้าพร้อมรองรับ ไม่มีปัญหาเราก็ให้อยู่แล้ว ช่วงนี้ LNG ก็ราคาต่ำ Capacity ของคลัง LNG ก็เหลือบางส่วน แต่ก็ไม่อยากให้คนมาขอเยอะเกินไป เพราะต้องไปดูเรื่องการจองท่อ จองคลังด้วย"แหล่งข่าว กล่าว

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า การที่กลุ่ม GULF ได้รับใบอนุญาตครั้งนี้ทำให้จะสามารถไปเริ่มเจรจากับ PTT เพื่อจองพื้นที่สำหรับการใช้คลัง LNG และการใช้ท่อส่งก๊าซฯ ส่วนจะมีการนำเข้าเมื่อใดและปริมาณเท่าใดนั้นก็ขึ้นอยู่กับการเจรจาของทั้งสองฝ่าย แต่คิดว่าคงไม่ใช่ในเร็ววันนี้ และอาจจะไม่สามารถนำเข้าได้ตามปริมาณที่กำหนด เพราะยังต้องคำนึงถึงความเหมาะสมทั้งในส่วนของคุณภาพก๊าซฯที่จะมารวมกันกับก๊าซฯในอ่าวไทย รวมถึงความจุของคลังก๊าซฯที่สามารถรองรับได้ ตลอดจนจุดหมายปลายทางในการส่งก๊าซฯออกไปด้วย

อย่างไรก็ตามแม้อาจจะมีปริมาณนำเข้า LNG เข้ามาเพิ่มเติมแต่ก็เชื่อว่าจะยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับสูตรราคาก๊าซฯรวมแต่อย่างใด แต่การที่กกพ.ให้ใบอนุญาตดังกล่าวก็จะช่วยให้การเปิดเสรีก๊าซฯสามารถทำได้เร็วขึ้น

สำหรับสัญญาซื้อขายก๊าซฯที่กลุ่ม GULF มีกับ PTT ในส่วนของโรงไฟฟ้า SPP ของกลุ่มนั้นยังคงเป็นไปตามเดิม แต่การนำเข้า LNG เข้ามาเพิ่มเติมก็เพื่อใช้รองรับในส่วนที่อยู่นอกเหนือสัญญาซื้อขายก๊าซฯขั้นต่ำที่มีอยู่กับ PTT ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้สามารถบริหารจัดการก๊าซฯได้ โดยไม่ผิดสัญญาซื้อขายก๊าซฯแต่อย่างใด

ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ (IPP) ในโครงการหินกอง ขนาด 1,400 เมกะวัตต์นั้น ปัจจุบันยังไม่ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซฯ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้ากับ PTT แต่อย่างใด

นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ของ PTT กล่าวว่า ปตท.ในฐานะที่เป็นผู้จำหน่ายก๊าซฯ และนำเข้า LNG พร้อมที่จะปรับตัวรองรับการแข่งขันในอนาคต หลังจากที่กกพ.ได้ให้ใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซฯ แก่ผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มเติม โดยในส่วนของราคาก๊าซฯตลาดรวม (POOL ) ที่มีราคาสูงกว่าราคา LNG ตลาดจรในขณะนี้ ที่อยู่ราว 2-3 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียูนั้น ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามภาวะตลาดโลกในช่วงนี้ ส่วนตลาด POOL เป็นราคาก๊าซฯที่จากแหล่งอ่าวไทย เมียนมา และการนำเข้า LNG ระยะยาว ที่เกิดขึ้นจากนโยบาย ที่สร้างความมั่นคงระยะยาวของประเทศ ซึ่ง สำนักงาน กกพ.ก็ได้ระบุชัดเจนว่าสัญญาซื้อขายก๊าซฯเดิมของโรงไฟฟ้าที่มีไว้กับ PTT จะต้องไม่เปลี่ยนแปลง

ส่วนโรงไฟฟ้า IPP หินกองที่ภาคเอกชนจะนำเข้า LNG มาใช้เองนั้น ภาครัฐก็จะต้องช่วยดูแลเรื่องความมั่นคงพลังงานในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตาม ปีนี้ PTT ก็เตรียมพร้อมนำเข้า LNG จากตลาดจร อีก 11 ลำเรือเพื่อเสริมความมั่นคง แต่การจะนำเข้ามากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ