(เพิ่มเติม) ตลท.ย้ายหุ้น AGE จาก mai เข้าเทรด SET ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.63

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 28, 2020 15:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

(เพิ่มเติม) ตลท.ย้ายหุ้น AGE จาก mai เข้าเทรด SET ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.63

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ย้ายหุ้นบมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) จากตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มทรัพยากร มาซื้อขายใน SET กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจ พลังงานและสาธารณูปโภค ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.63

AGE เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายถ่านหิน ให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งให้บริการด้านโลจิสติกส์ทั้งทางบกและทางน้ำ

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร ของ AGE เปิดเผยว่า การย้ายเข้าไปซื้อขายใน SET ครั้งนี้ เพื่อเป็นการลดข้อจำกัดในการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนสถาบันที่สนใจเข้ามาถือหุ้นของ AGE

"ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ AGE อยู่ในตลาด mai บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ และประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ ทั้งทางบก ทางน้ำโดยเรือลำเลียง และรถบรรทุก ส่งผลให้บริษัทสามารถจ่ายปันผลทั้งในรูปแบบหุ้นปันผล และเงินปันผล ตามนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิที่เหลือหลังจากหักเงินสำรองต่าง ๆ และยังได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการอยู่ที่ระดับ 4 ดาว รวมทั้งบริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นหุ้นยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์ด้วย"นายพนม กล่าว

นายพนม กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนธุรกิจถ่านหิน โดยการมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้วางกลยุทธ์บุกตลาดกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น ภายหลังที่มีการลงทุนก่อสร้างคลังถ่านหิน และโรงงานคัดแยกที่มีระบบบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในประเทศเวียดนาม ในปี 61 พร้อมทั้งการขยายตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นอีกด้วย เพราะเมื่อพิจารณาจากตัวเลขปริมาณการขายถ่านหินในประเทศพบว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี โดยปัจจุบันบริษัทมียอดคำสั่งซื้อถ่านหินในมือ (Back log) จำนวน 1 ล้านตัน ซึ่งจะทยอยส่งมอบจนถึงปี 64 โดยทั้งปีคงเป้าปริมาณการขายถ่านหินไว้ที่ระดับ 3.5 ล้านตัน

ความต้องการใช้ถ่านหินในภาคอุตสาหกรรมในประเทศมีสัญญาณฟื้นตัวจากไตรมาส 2/63 อย่างชัดเจน เนื่องจากการกลับมาดำเนินธุรกิจอย่างปกติมากขึ้น และบริษัทมีบริการโลจิสติกส์ที่ครบวงจร ทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งถ่านหินยังคงเป็นเชื่อเพลิงที่มีต้นทุนต่ำ เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่น เช่น น้ำมันเตาจึงทำให้ถ่านหินยังคงเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ผู้ประกอบการภายในประเทศเลือกใช้ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้ถ่านหินมากที่สุดคือโรงไฟฟ้า และกลุ่มผู้ประกอบการผลิตปูนซีเมนต์

นอกจากนี้ ธุรกิจโลจิสติกส์ บริษัทมีแผนการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายท่าเรือที่ 4 จากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้ดำเนินการให้บริการท่าเรือที่ 3 เป็นที่เรียบร้อย รวมทั้งการต่อเรือลำเลียงเพิ่มเติม โดยปัจจุบัน มีเรือลำเลียงครบแล้ว 36 ลำ และวางแผนเพิ่มเป็น 40 ลำในช่วงปี 64 และรถบรรทุกทั้งหมด 51 คัน ซึ่งมีแผนจะเพิ่มในอนาคตรองรับปริมาณงานที่สูงขึ้น ถือเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของบริษัทที่มีการให้บริการที่ครบวงจร โดยรายได้จากธุรกิจโลจิสติกส์คาดว่าจะคิดเป็น 10% ของรายได้รวม

ส่วนการลงทุนในส่วนของธุรกิจพลังงานผ่านบริษัทร่วมทุน ภายใต้บริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 4/63 จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ ขนาด 5 เมกะวัตต์ และในปี 64 จากโครงการการขายไอน้ำ ให้กับลูกค้าขนาดเตา Boiler 16 ตัน นอกจากนี้ ยังคงอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในโครงการขายไอน้ำ และโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมหลายโครงการ ซึ่งคาดว่าจะลงทุนในปี 64 ขณะที่บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่งมีกำไรสะสมสูงถึง 700 ล้านบาท

ด้านราคา AGE ในปัจจุบันที่มีการซื้อขายระดับต่ำกว่าระดับ P/E ที่ 7.07 เท่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวออยู่ที่ 1.29 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท หรือ 2.38%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ