STARK เตรียมเพิ่มทุนขาย PP 1.5 พันล้านหุ้นนำเงินสมทบซื้อกิจการในยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 1, 2022 10:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2565 เมื่อวันที่ 29 ก.ค.65 มีมติว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 23 พ.ค.มีมติเห็นชอบให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นใน LEONI Kabel GmbH บริษัทจ กัดที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศเยอรมนี และ LEONIsche Holding Inc บริษัทที่จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของรัฐเดลาแวร์ในสัดส่วนร้อยละ 100 ของหุ้นสามัญทั้งหมด มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 560 ล้านยูโร (หรือประมาณไม่เกิน 20,588.90 ล้านบาท) โดยบริษัทมีแหล่งเงินทุนในการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเป็นหลัก ส่วนที่เหลืออาจมาจากกระแสเงินสดหมุนเวียนภายในของบริษัท และหากกระแสเงินสดหมุนเวียนภายในของบริษัทไม่เพียงพอ บริษัทจะพิจารณาการเพิ่มทุนต่อไปนั้น

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในครั้งนี้พิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทยังมีต้องความต้องการเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอสำหรับการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว จึงได้มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 1/2565 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท 1,500,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 15,875,206,607 บาท เป็น 17,375,206,607 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,500,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)

ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่าง (1) สรรหาผู้ลงทุนที่มีลักษณะ ประเภท และจำนวน ตามที่หลักเกณฑ์จะถือว่าเป็นการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจ กัด (Private Placement) และ (2) พิจารณาคัดเลือกผู้ที่จะได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว ซึ่งจะต้องเป็นผู้ลงทุนที่มีศักยภาพและสามารถลงทุนในบริษัทได้จริงและไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน

อนึ่ง หากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจ กัดในครั้งนี้เข้าข่ายเป็นการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ในราคาต่ำกว่า 90% ของราคาตลาด ก่อนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสั่งรับหุ้นในส่วนเพิ่มทุนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน บริษัทมีหน้าที่ห้ามไม่ให้บุคคลที่ได้รับหุ้นจากการเสนอขายหุ้น PP นำหุ้นที่ได้รับจากการเสนอขายทั้งหมดออกขายภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นเริ่ม ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยภายหลังจากวันที่หุ้นดังกล่าวเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯครบกำหนดระยะเวลา 6เดือน ให้บุคคลดังกล่าวสามารถทยอยขายหุ้นที่ถูกสั่งห้ามขายได้ 25%ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ถูกสั่งห้ามขาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ