ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบปิดพุ่ง $1.52 ขานรับภาคการผลิตสหรัฐ-จีนขยายตัว

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 2, 2010 07:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบแตะระดับ 83 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (1 พ.ย.) เนื่องจากดัชนีภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีนทำให้นักลงทุนคาดว่าความต้องการพลังงานของทั้งสองประเทศจะดีดตัวขึ้นด้วย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในวันพุธนี้

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.52 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.95 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 83.20- 82.95 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์เดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ ปิดที่ 2.2777 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.35 เซนต์ ปิดที่ 2.0929 ดอลลาร์/แกลลอน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.62 ดอลลาร์/บาร์เรล

ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐและจีนจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนต.ค.ขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 56.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 54.0 จุด หลังจากขยายตัว 54.4 จุดในเดือนก.ย. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัว

ข้อมูลของ ISM ระบุว่า ดัชนีการจ้างงานในภาคการผลิตขยายตัวขึ้นแตะระดับ 57.7 จุดในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 56.5 จุด ขณะที่ดัชนีการสั่งซื้อสินค้าใหม่ในภาคการผลิตพุ่งขึ้นแตะระดับ 58.9 จุดในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 51.1 จุด

ขณะที่สมาพันธ์โลจิสติกและการจัดซื้อแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนต.ค.อยู่ที่ระดับ 54.7 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 53.8 จุด และนับเป็นเดือนที่ 20 ติดต่อกันแล้วที่ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนขยายตัวเหนือระดับ 50 จุด

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.5 % แตะระดับ 8.017 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 0.5% หลังจากลดลง 0.2 % ในเดือนส.ค.

นักลงทุนจับตาดูการเลือกตั้งช่วงกลางสมัยของสมาชิกสภาคองเกรสในวันที่ 2 พ.ย. และการประชุมนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 2-3 พ.ย. เนื่องจากทั้งสองเหตุการณ์จะมีอิทธิพลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ