ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) สัญญาข้าวสาลีพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนหลังเกิดฝนตกอย่างหนักในออสเตรเลียซึ่งคาดว่าจะทำให้การเก็บเกี่ยวต้องยืดระยะเวลาออกไปและส่งผลให้ข้าวสาลีมีคุณภาพลดลง ในขณะเดียวกัน สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองได้ร่วงลงจากสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนมีนาคมลดลง 5.5 เซนต์ หรือ 0.95% แตะ 5.68 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 14.0 เซนต์ หรือ 1.797% แตะ 7.93 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมกราคมลดลง 11.75 เซนต์ หรือ 0.9% แตะ 12.885 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
เทรดเดอร์กล่าวว่า สัญญาข้าวสาลีนำตลาดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับฝนที่ตกอย่างอย่างหนักในออสเตรเลียซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกในปีนี้ อาจจะเก็บเกี่ยวล่าช้าออกไปและอาจได้คุณภาพของข้าวสาลีที่ชื้นแฉะ
ทั้งนี้ ได้เกิดฝนตกอย่างหนักในภาคตะวันนออกของออสเตรเลียซึ่งคาดว่าอาจวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 1 นิ้ว (2.5 ซ.ม.) ในบางพื้นที่ในอีก 2 วันข้างหน้า โดยนักวิเคราะห์ของเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ คาดว่า ฝนที่ตกอย่างหนักทำให้เกษตรกรไม่สามารถทำงานกลางแจ้งได้และคุณภาพของข้าวสาลีลดลงเกินกว่า 40% จากปริมาณข้าวสาลีทั้งหมดของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปริมาณฝนในบราซิลและอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่สุดรองจากสหรัฐ ได้สร้างแรงกดดันต่อตลาดข้าวโพดและถั่วเหลือง โดยราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่ฝนที่ตกมากขึ้นทำให้เกิดความคาดหวังว่าจะมีการเพาะปลูกใหม่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ พื้นที่เพาะปลูก 75% ของบราซิลมีปริมาณน้ำฝน 2.5 นิ้วในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และ 20% ของพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดในอาร์เจนตินามีปริมาณน้ำฝน 2 นิ้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีปริมาณน้ำฝนมากขึ้นในสัปดาห์ที่จะมาถึง
นอกจากนี้ เทรดเดอร์กล่าวเสริมว่า การแข็งค่าของเงินดอลลาร์และความวิตกกังวลเกี่ยวกับหยุดใช้มาตรการให้เงินอุดหนุนเอธานอลทำให้กองทุนบางกลุ่มออกมาเทขาทำกำไร โดยกองทุนคาดว่าราคาข้าวสาลีจะเพิ่มขึ้นและราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองจะปรับตัวลดลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน